ช่างเป็นการกระทำที่อุกอาจอะไรเช่นนี้ของ “ป้าศุ” ฮิฮิ
ที่เอาที่ดินทำเลที่ไม่ต่างอะไรจากคอนโดเลย มาสร้างเป็น Home Office + บ้านแฝด
“Supalai Grand Essence@Tha Phra Station”
โฮมออฟฟิศ ที่มีระยะห่าง MRT ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ แค่ 600 กว่าม. เท่านั้น! แถมเป็นฝั่งที่มี “ขา” เป็นบันไดเลื่อนด้วยนะ ใครอยากออกกำลังขา อาจขุ่นเคืองบ้าง 555
ผมทดลองเดินดูแบบชมนกชมไม้ ใช้เวลาราว 7-8 นาที ไม่เลวเลย
โครงการนี้มีแค่ 18 ยูนิตเท่านั้น บนที่ดินเกือบ 3 ไร่!
พื้นที่ใช้สอย 351-516 ตร.ม. ราคา 19.9-37 ล้าน
ที่ดินขนาดนี้ เชื่อว่า Developer หลายเจ้าคงพัฒนาเป็นคอนโด หรือถ้าพัฒนาเป็น ทาวน์โฮม ด้วยทำเลแบบนี้ ก็คงไม่ใช่ราคานี้แน่ ผมว่ามี 25ล.+
รูปแบบอาคาร ออกแบบมาให้สวยร่วมสมัยดี
มาพร้อมระบบ Home Automation & Security ภายในบ้านทุกหลัง รองรับการติดตั้ง EV Charger และลิฟท์โดยสาร
บันไดค่อนข้างกว้างทีเดียว ยกของขึ้นลงสบายๆ
ที่ Saless Gallery ทำบ้านตัวอย่างมาให้ดูเรียบร้อย
ชั้นแรก + ชั้นลอย ค่อนข้างสูงมาก ขนาดชั้นลอยยังสูง 2.2 ม. เหมาะไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนจริงๆ พื้นที่เยอะเอาการ
ชั้น 2 ทางโครงการตกแต่งเป็นออฟฟิศให้ดูเป็นตัวอย่าง กว้างมาก กว้างพอที่จะมีพนักงานหลัก 10 ได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่ทำเป็นครัวเล็กๆได้อีก
ในชั้นนี้จะมี ส่วนที่ทำเป็นห้องประชุมไว้ให้ดูด้วย
ชั้น 3 ทำเป็น ห้องนอน 1 ห้องแบบใหญ่ๆ ใหญ่พอที่จะมีห้อง Living room ในตัว นอกจากนั้น ยังมีอีกห้องที่ทำเป็น Studio ส่วนตัวได้อีก
ชั้น 4 สามารถทำเป็นห้องนอน ได้อีก 2 ห้อง
ดาดฟ้า เป็นพื้นที่โล่งที่เราสามารถออกแบบจัดวางเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้
ทุกชั้นจะมีห้องน้ำ 2 ห้อง เว้นชั้นแรกที่จะมีแค่ 1 ห้อง เพียงพอต่อการใช้งานสบายๆ
“ส่วนกลาง” อาจจะเป็นอีกเรื่องที่หลายคนชอบ คือมีแค่ที่จอดรถที่จอดได้ 15 คัน ประหยัด ค่าส่วนกลาง ได้อักโขทีเดียว
ค่อนข้างครบครันต่อการเป็น Home Office จริงๆ
เสียดายจัง ที่ฝั่ง บ้านแฝดไม่มีบ้านตัวอย่าง ดูจากรูปแล้ว สวยใช้ได้เลย ว้า
บริเวณหน้าโครงการ ค่อนข้างเงียบ ไม่มีร้านค้าเท่าไร แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่มีผลเท่าไรกับสมัยนี้ ที่มีแอป Food Delivery เกลื่อนเมือง
ที่สำคัญ สามารถเดินไป "ตลาดพลู" แหล่งบันเทิงชั้นดีของลิ้น และกระเพาะ ได้สบายๆ ระยะพอกับเดินไป MRT นั้นล่ะ ผมทดลองเดินแล้ว ใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาที เพราะมัวแต่ดูของกิน ฮิฮิ
เลยไปอีกนิด The Mall ท่าพระ อยู่ใกล้ๆ จากโครงการน่าจะ 1 กม.หน่อยๆ
นอกนั้นก็จะมีห้าง ICON SIAM, ซีคอน บางแค และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ที่อยู่ไม่ไกลกัน
ข้อเสียก็มีนะคือ ไม่ว่าจะมาจากเส้นไหน จะต้องกลับรถเพื่อเข้าโครงการทั้งนั้น เว้นว่าจะทำงานที่ สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ ที่อยู่ติดโครงการ อะนะ
แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียอะไรมาก เพราะจุดกลับรถ ค่อนข้างใกล้ ใต้สะพานข้ามไปตลาดพลู ห่างจากโครงการ 100-200 ม. เอง และถ้าต้องการไปสาทร จากหน้าโครงการ ตรงไปกลับรถแยกท่าพระ 500-600ม. เท่านั้น ก็จะข้ามสะพาน ลงเส้นถ.รัชดา เลี้ยวซ้ายออก ราชพฤกษ์ ตรงไปเรื่อยๆข้ามสะพานตากสิน ก็ถึงสาทรละ
บางคนอาจมองเรื่องการกลับรถ เป็นแง่ดีด้วยซ้ำ ลดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถเลี้ยวเข้าโครงการจากฝั่งตรงข้าม
โดยรวมแล้ว แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่เมื่อมาพิจารณากับจุดเด่นต่างๆของโครงการ จัดว่าเป็น โครงการที่น่าสนใจมาก
ผมค่อนข้างเชื่อว่า Sold out อย่างแน่นอน ของแบบนี้ ทำเลแบบนี้ ราคาแค่นี้ เมื่อไรจะมีมาอีก บอกไม่ได้เลยจริงๆ
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ