ในช่วง 3-4 ปีนี้ จัดเป็นยุคทองของ "บ้าน" มากๆ มีโครงการผุดขึ้นมาเพียบ โดยเฉพาะ "บ้านหรู" ค่าตัวระดับ 8-9 หลัก ซึ่งล้วนแล้วแต่ขายดี เกลี้ยงแผงกันเป็นว่าเล่น 

        ผมมีโอกาสได้ไปดูหลายโครงการเลยครับ ได้ตะลึงกับโครงการ ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว และนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย

        แต่ทั้งหมดทั้งมวล แทบจะมลายหายไปจากสมองเลย เมื่อได้มาเยือน “MULBERRY GROVE THE FORESTIAS VILLAS" 1 ในโครงการที่อยู่อาศัยใต้ร่มชายคา อภิมหาโปรเจกต์แสนล้าน "THE FORESTIAS BY MQDC"

        “MULBERRY GROVE THE FORESTIAS VILLAS" คือโครงการที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า "ระดับโลก" ออกแบบโดย Norman Foster และ Partners

        Norman Foster คือสถาปนิกชาวอังกฤษชื่อดังระดับโลก ที่เด่นในด้านออกแบบโดยใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และใช้นวัตกรรมล้ำสมัย จึงแน่ใจได้ว่า "บ้าน" โครงการนี้ จะมีนวัตกรรมที่โดดเด่น แวดล้อมด้วยธรรมชาติได้อย่างสมดุล อยู่แล้วสะดวก สบายตา อบอุ่นใจแน่นอน

        ตัวโครงการมีรายละเอียดเยอะมากครับ นอกจากส่วนกลางของโครงการ “MULBERRY GROVE THE FORESTIAS VILLAS" เองแล้ว ก็ยังมีการเชื่อมเข้ากับส่วนกลางหลักของ "THE FORESTIAS BY MQDC" อีก เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้บทความ ยาวจนเกินไป ผมขอเอ่ยถึงเฉพาะที่ผมคิดว่าโดดเด่น และชอบจริงๆละกันเนอะ รวมถึงจะขอเรียกโครงการแบบย่อว่า “MULBERRY GROVE VILLAS" เข้าใจตรงกันนะ

        - “MULBERRY GROVE VILLAS" ประกอบด้วยบ้าน 37 หลัง มี 3 ขนาด 1. วิลล่าขนาดใหญ่พิเศษ มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,700 ตร.ม. ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านบ. 2. วิลล่าขนาดใหญ่ ที่มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,200 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 220 ล้านบ. และ 3. บ้านขนาดกลาง เนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,000 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 185 ล้านบ. ตั้งกระจายตัวอยู่บนที่ดินพื้นที่ 26 ไร่ มีลิฟต์ให้ทุกหลัง

        - ในโครงการจะมี "Canopy Walk" ทางเดินยกระดับ เชื่อมเข้ากับ ป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่ บริเวณใจกลางโครงการ "THE FORESTIAS BY MQDC" ทางเดินนี้ จะทอดยาวทะลุผืนป่า ความยาวโดยรวมถึง 1.6 กม.! 

        - “MULBERRY GROVE VILLAS" มีแรงบันดาลใจ จากวิถีชีวิตของครอบครัวคนไทยที่เคยเป็นมา ที่มีหลายเจเนเรชั่นในครอบครัว มักจะปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน และไปมาหาสู่พบปะกันอยู่เสมอ จึงออกแบบโดยมีแนวคิด "บ้านคลัสเตอร์" โดยแต่ละครอบครัว สามารถเลือกซื้อบ้านที่ต่างแบบกัน(ต้องอยู่ติดกัน) แล้วเชื่อมต่อกันเป็นคลัสเตอร์ ไปมาหาสู่กันได้จากทางเชื่อม ในขณะที่ บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว แบ่งอาณาบริเวณของแต่ละบ้าน ด้วยแนวต้นไม้ และฉากตามธรรมชาติอื่นๆ

        - ลองนึกภาพตามว่า ตอนเช้า เราอยากจะกินข้าวกับพ่อแม่ ก็เดินไปบ้านกลาง พาลูกหลานไปเล่นให้พ่อแม่เราชุ่มชื่นหัวใจ ได้รับพลังงานความสุขจากเด็กๆ เป็นกำลังใจให้มีชีวิตที่แข็งแรง พอคล้อยเย็น หรือเราต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เดินกลับมาที่บ้านตัวเองได้ คงจะมีความอบอุ่นดีไม่น้อยเลยนะ นอกจากนั้น ทำให้เราสามารถดูแลรักษาคนเฒ่าคนแก่คนเจ็บไข้ได้ป่วยในบ้าน ได้อย่างทันท่วงทีด้วย

        - ที่ผมชอบมากคือ การออกแบบบ้านโดยเหมือนเอา "เรือนไทย" มาประยุกต์ให้ทันสมัย ตัวบ้านจะมี 3 ชั้น และชั้นใต้ดิน ตัวบ้านตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป มีลักษณะเป็นตัว "U" ล้อมรอบชานบ้าน ที่เสมือนทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่บ้านเข้าหากัน

        - ชั้นใต้ดิน จะเป็นลานจอดรถกว้างๆ พร้อม EV Charger มีระบบระบายอากาศอย่างดี โดยหลังเล็กสุด จอดรถแบบซุปเปอร์คาร์ 4-5 คัน ได้สบายๆ ทางลงที่จอด ผนังกรุด้วยหินสีดำอย่างเท่ห์ ไม่ต่างกับรังลับของพวกซุปเปอร์ฮีโร่เลย 555 บ้านตัวอย่าง ทำชั้นนี้เป็นไอเดียออกมาได้สวยมาก บางทีเราอาจไม่ได้ต้องการที่จอดรถเยอะขนาดนั้น ก็ดัดแปลงบางส่วนเป็นพื้นที่รับรองเพื่อนฝูงได้ 

        - "Tesla Power Wall" จะอยู่ที่ชั้นใต้ดินด้วย ทำหน้าที่เหมือนเป็นก้อนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รับพลังงานมาจาก Solar cell บนหลังคา จุพลังงานได้มากพอถึงขนาดที่ว่า แม้ด้านนอกจะไฟดับข้ามคืน บ้านนี้ก็จะยังมีไฟฟ้าสำรองพอใช้ข้ามคืนได้เลย! ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา ได้ข่าวว่าเจ้า "Power Wall" นี้มีค่าตัวไม่น้อยเลยนะ 

        - ออกแบบให้ชั้นแรกเป็น "ใต้ถุน" โดยส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ทำงานของ แม่บ้าน คนงานในบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องนอนแม่บ้าน ห้องคนขับรถพร้อมห้องน้ำในตัว

        - สุดยอดห้องแม่บ้านอันดับ 1..!! ห้องมีพื้นที่ราวๆ 30-40 ตร.ม. มี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ ทุกห้อง (เว้นห้องน้ำ) ติดเครื่องปรับอากาศ+เครื่องเติมอากาศ ห้องนอน วิวสวน วิวสระ ห้องน้ำ ผนังเป็นกระจกเต็มบานวิวสวน มีกระจก Temper กั้นส่วนแห้ง ส่วนเปียก อีกต่างหาก เอาจริงๆ ดีกว่าบางคอนโดด้วยซ้ำนะ 555 ถ้าเป็นคอนโด เชื่อว่า ค่าตัวไม่ต่ำกว่า 3 ล้านแน่นอน โดยส่วนใหญ่น่าจะ 4 และอาจถึง 5 ล้านด้วยซ้ำ!! และจะเป็นตำแหน่งที่ขายดีด้วย

        - ห้องครัว มีความอลังระดับโรงแรม 5 ดาว มีพื้นที่ขนาดใหญ่เครื่องครัวทันสมัย มีลิฟท์ลำเลียงอาหารให้ด้วย พร้อมรองรับการจัดปาร์ตี้สบายๆ

        - บ้านตัวอย่าง เชื่อมบ้าน 2 หลังเข้าด้วยกัน จึงออกแบบให้ชั้นแรก มีสวนหน้าบ้าน (พร้อมแสง UV ให้พืชเติบโตได้ดี) สวนหลังบ้าน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ลานกิจกรรมของคนในบ้าน มีการเจาะพื้นให้แสงลงไปยังชั้นใต้ดินที่จอดรถด้วย รวมถึงบ้านสัตว์เลี้ยง ก็ทำไว้ให้ดูเป็นแนวทางเช่นกัน

        - ชั้นที่ 2 ในส่วนของการอยู่อาศัยจริงๆ จะเริ่มที่ชั้นนี้ เมื่อขึ้นบันไดมา จะเจอกับ "ชานบ้าน" ที่กว้างพอจะทำกิจกรรมได้ มี "ต้นไม้ใหญ่" คอยให้ร่มเงาบ้านด้วย เราสามารถเข้าตัวบ้านได้จากทุกด้านที่เชื่อมกับชาน เหมือน "เรือนไทย" สมัยก่อนที่ "ชานบ้าน" ทำหน้าที่เชื่อมกับทุกเรือน ตอนผมเดินขึ้นมาชั้นนี้ รู้สึกอย่างกับตัวเองย้อนยุค เป็น "พี่หมื่น" "พี่ขุน" ยังไงไม่รู้ 555 ถ้ามี "ตุ่มน้ำ" ไว้ล้างเท้านี่ใช่เลยนะ อ๋อ ตรงจุดนี้ ถ้าเราซื้อบ้านแบบเชื่อมกัน ชานบ้าน ก็จะเชื่อมกับ "ทางเดินเชื่อม" เพื่อไปสู่บ้านอีกหลังหนึ่งบริเวณ ชานบ้าน เช่นเดียวกัน

        - อีกจุดที่ชอบคือ "ห้องรับแขก" ที่ขึ้นมาก็เจอเลย มีห้องน้ำพร้อม แยกเป็นสัดส่วน มีประตูกั้นกับส่วนอื่นของบ้าน ไม่รบกวนคนอื่นในบ้าน จะอยู่ติดกับ "ครัวเบา" ด้วยนะ แม่บ้าน จะได้บริการสะดวกๆ

        - โซน Living/ทานข้าว เพดานแบบ Double Volume สูงเกือบ 10 ม.! ให้ความรู้สึกอย่างกับอยู่ใน Clubhouse ของคอนโดแหนะ 555

        - ชั้น 2 มีห้องนอนด้วย จะดัดแปลงเป็นห้องนอนลูกชาย หรือผู้สูงอายุก็ได้ทั้งนั้น แถมติดกัน มีอีกหนึ่งห้องนอนเล็ก อาจจะเอาไว้รับรองเพื่อนของเจ้าลูกชาย หรือจะมีไว้สำหรับ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ก็ได้ มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง

        - ชั้น 3 มี ห้องพระ , 2 ห้องนอนใหญ่ๆ พร้อมห้องน้ำ มีรายละเอียดหนึ่งที่คุณผู้หญิงน่าจะชอบคือ โซนโต๊ะแต่งหน้า จะมี "ช่องแสง" ให้แสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้การแต่งหน้า ง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยยื่นหน้าไปใกล้กระจกห้อง 

        - ทุกห้องจะมี สุดยอดเครื่องปรับอากาศ All in One กรองฝุ่น PM2.5 ได้มากกว่า 90% , มีระบบเติมอากาศ ทำให้ความดันในห้อง จะสูงกว่าภายนอก ส่งผลให้เกิดการดันฝุ่นภายนอก ไม่ให้เข้าสู่ภายในทางรอยต่อต่างๆ นอกจากนั้น เครื่องปรับอากาศจะใช้ระบบ "น้ำเย็น" ที่ส่งมาจากอาคารผลิตน้ำเย็น CUP (Central Utility Plant) ทำให้ไม่ต้องมีคอยล์ร้อน ลดการใช้ไฟฟ้า ลดการสร้างความร้อนแก่อากาศภายนอก

        - การวางตำแหน่งเครื่องปรับอากาศ จะออกแบบให้ไม่มี "ท่อลม" ในตัวบ้าน เพื่อลดแหล่งสะสมเชื้อโรค และสิ่งสกปรกต่างๆ 

        - มีติดตั้ง Sprinkle ไว้ในห้องให้แล้ว ให้ม่านไฟฟ้า มุ้งลวดไฟฟ้า ชอบที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับ ถ้ามีสิ่งกีดขวาง มุ้งลวดจะหยุด แล้วย้อนกลับขึ้นไปก่อน และรอจนกว่าไม่มีอะไรขวาง ถึงค่อยเลื่อนลงมาเองอีกครั้ง

        - ออกแบบให้ ตามรอยต่อโครงสร้างบ้าน มีตะแกรง Stainless ความถี่สูง เกรด TMA 725 ที่มีความทนทาน ป้องกันไม่ให้ปลวกเข้ามา เป็นระบบเดียวกับที่ใช้ในโครงการใหญ่ๆ อย่าง W Hotel ที่ Sentosa ที่สิงคโปร์ 

        - โดยปกติ งานระบบอย่างพวกสายไฟ ท่อต่างๆ มักจะอยู่บนฝ้าตามเพดาน ซึ่งมักจะเกิดปัญหาสัตว์ต่างๆเข้าไปอยู่ และมีการสะสมของฝุ่น แต่ที่นี่ จะออกแบบให้ งานระบบต่างๆจะไปอยู่รอบนอกตัวบ้านแทน มีการทำพื้นที่แข็งแรงรอบบ้านให้ยื่นออกมาพอประมาณ ทำให้ช่างสามารถยืนซ่อมแซมจากภายนอกได้โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย  

        - เมื่อไม่มีงานระบบต่างๆบนฝ้าแล้ว ทางโครงการจึงออกแบบให้มีพื้นที่เหนือฝ้าแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่า จะมีสัตว์ต่างๆเข้าไปอยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่วจากท่อ และเป็นการลดการสะสมของฝุ่นด้วย

        - หลังคาบ้านเป็นแบบ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นอลูมิเนียม ซ้อนทับอยู่บนหลังคาคอนกรีต ลดปัญหาเรื่องรั่วซึม

        - ผนัง ซ้อนกันถึง 5 ชั้น ส่วนผนังกระจก เป็นแบบ Insulated Glass กันเสียง และกันความร้อน หลักการเดียวกับกระติกน้ำ ที่กักเก็บความเย็นได้

        - วัสดุปิดผิวรอบนอกบ้าน เป็นอลูมิเนียมทั้งหมด นอกจากความสวยงามแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาเหมือนผนังคอนกรีต มีแผ่นอลูมิเนียมบังสายตา บังแดด ที่เราสามารถเลื่อนได้ด้วยนะ 

        - การรับประกัน 30 ปีของ MQDC ครอบคลุม 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ โครงสร้าง , หลังคา / โครงสร้างหลังคา / ดาดฟ้า , FAÇADES , และระบบท่อ มั่นใจได้เลย อยู่กันยาวๆ

        - “MULBERRY GROVE VILLAS" ออกแบบให้สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ โดยทำการถมดินในโครงการ ให้สูงกว่าถนนบางนา-ตราด ด้านนอก ถึง 2 ม. , ทำเขื่อนรอบโครงการ , ผันน้ำเข้าพื้นที่ป่า ทำให้โอกาสที่น้ำจะท่วมเหลือน้อยมาก จนอาจไม่เกิดขึ้นเลย ก็เป็นได้

        - ส่วนกลางของ “MULBERRY GROVE VILLAS" เป็น Clubhouse ขนาดใหญ่ 2 ชั้น มี สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องเด็กเล่น ห้องประชุม คาเฟ่ ตรงนี้จะมี "Canopy Walk" จาก Clubhouse เชื่อมไปส่วนอื่นๆภายใน "THE FORESTIAS BY MQDC" ได้เลย

        ยังมีรายละเอียดอีกเยอะเลย ถ้าเล่าหมด บทความคงจะยาวไปถึงเชียงใหม่ ฮิฮิ และที่เล่าๆไปเนี่ย ก็ยังสู้มาสัมผัสกันเองไม่ได้นะ จะซื้อไม่ซื้อ ก็อยากให้มาดูกันจริงๆครับ ของแบบนี้ ไม่ได้มีมากันบ่อยๆ

        แนะนำว่า ให้ลงทะเบียนกันก่อนนะ จองคิวให้เรียบร้อย จะได้มีน้องพนักงานมาคอยดูแล ให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ 

        ขอส่งท้ายว่า ถ้าคุณมีงบประมาณเพียงพอ ไม่มีเหตุผลเลย ที่คุณจะไม่ซื้อบ้านที่นี่!!! ที่สุดของที่สุด คราฟทุกรายละเอียด ของนำเข้าเพียบ ไม่มีทางที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่ MQDC ทำ ผมก็ยังนึกภาพไม่ออกเลย ว่าจะมีใครสามารถทำได้อีก 

        และนี่คือ “MULBERRY GROVE THE FORESTIAS VILLAS” ที่สุดของสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยครับ