REIC ประเมินปี 2559 โครงการเปิดตัวใหม่ติดลบ 10-15% อสังหาฯเลื่อนเปิดโครงการไตรมาส 4 ด้านยอดโอนยังทรงตัวลุ้นเติบโตได้ 2% ยอดขายใหม่ซึม-จับตามู้ดผู้บริโภคภาวะโศกเศร้าส่งผลต่อนักลงทุน ปี 2560 คาดตลาดกลับมาปกติ-EEC ช่วยฟื้นตลาดชลบุรี
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ REIC เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2559 ว่า สถิติการเปิดหน่วยอสังหาฯใหม่รอบ 9 เดือนแรกปี’59 พบว่ามีคอนโดฯเปิดใหม่แล้ว 3.7 หมื่นหน่วย และจัดสรรแนวราบ 3.3 หมื่นหน่วย รวมเป็น 7 หมื่นหน่วย ตลอดปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีหน่วยอสังหาฯเปิดตัวใหม่แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5.2-5.5 หมื่นหน่วย และจัดสรรแนวราบ 4.2-4.4 หมื่นหน่วย รวมเป็น 9.4-9.9 หมื่นหน่วย ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน 10-15% และถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี (ไม่รวมปี 2554 ซึ่งมีเหตุการณ์มหาอุทกภัย)
เนื่องจากไตรมาส 4/59 เกิดเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในพระบรมโกศเสด็จสวรรคต ทำให้เกิดความโศกสลดแก่ประชาชนชาวไทย บริษัทอสังหาฯหลายแห่งจึงตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัวโครงการในไตรมาสนี้ออกไป เช่น ค่ายพฤกษา, ศุภาลัย, แสนสิริ คาดว่าจะมีการเลื่อนเปิดตัวคอนโดฯ ประมาณ 4,000 หน่วย และบ้านจัดสรรอาจมีการเลื่อนเปิดโครงการ 2,000 หน่วย
“หน่วยการเปิดโครงการใหม่ลดลงแต่ไม่จำเป็นต้องตกใจ เพราะเป็นสิ่งที่ดีที่มีการเปิดขายน้อยลงในช่วงนี้ที่มีภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ปีนี้ไม่ใช่ปีทองของอสังหาฯ แต่ถือเป็นปีในการปรับฐานให้ตลาดเกิดความสมดุลมากขึ้น” นายสัมมากล่าว
อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อที่อยู่อาศัยรอบครึ่งปีแรก 2559 มีมูลค่า 2.9 แสนล้านบาท คาดการณ์ทั้งปีเชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 5.78 แสนล้านบาท และอาจเติบโตได้ 1-2% แสดงให้เห็นว่าในด้านการโอนตลาดยังคงทรงตัว โดยมีปัจจัยลบคืออัตราปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้น
ส่วนภาพรวมการขายมองว่าค่อนข้างชะลอตัว มีช่วงที่ตลาดคึกคักคือช่วงต้นปีก่อนหมดมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯ ลดค่าโอน-จดจำนอง และเมื่อวันที่ 6-9 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมีมหกรรมบ้านคอนโด ต้องจับตามองช่วง Q4/59 อีกครั้งซึ่งปกติแล้วเป็นฤดูขายของอสังหาฯ แต่จากปัจจัยภายในที่กล่าวข้างต้น อาจทำให้ความต้องการซื้อของผู้บริโภคลดลง
เชื่อปี’60 กลับสู่ภาวะปกติ
นายสัมมากล่าวต่อว่า สำหรับปี 2560 ยังประเมินได้ยากว่าสภาพตลาดจะเป็นไปในทิศทางใด เบื้องต้นเชื่อว่าจะกลับสู่ภาวะปกตินั่นคือมีการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 1 แสนหน่วย แต่มีปัจจัยเสี่ยงคือมู้ดผู้บริโภคที่ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะยังคงเศร้าซึมนานเพียงใด ซึ่งจะกระทบกับตลาดนักเก็งกำไรและนักลงทุน อีกปัจจัยหนึ่งที่กังวลคือตลาดอสังหาฯในประเทศจีนซึ่งมีภาวะโอเวอร์ซัพพลายสูงมาก และนักลงทุนจีนมีการนำเงินทุนมาลงทุนนอกประเทศรวมประเทศไทย หากเศรษฐกิจจีนเกิดปัญหาจะมีผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯไทยด้วย
ด้านปัจจัยบวก มองว่าแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ของรัฐบาล หากมีการพัฒนาต่อเนื่องเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจโซนตะวันออก คือจ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ดีขึ้น มีแหล่งงานเพิ่มและทำให้ประชากรมีรายได้เพิ่ม เป็นผลดีกับอสังหาฯโซนตะวันออกที่ปัจจุบันค่อนข้างโอเวอร์ซัพพลาย อาจจะกลับสู่ภาวะสมดุลได้มากขึ้น โดยเฉพาะชลบุรีที่เป็นตลาดอสังหาฯสำคัญมีขนาดใหญ่รองจากตลาดกรุงเทพฯ
นนทบุรี-ลำลูกกาเหลือขายอื้อ
ด้านข้อมูลอสังหาฯ กรุงเทพฯและปริมณฑล ครึ่งปีแรก 2559 พบว่า โครงการแนวราบเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.บางบัวทอง เหลือขาย 6,660 หน่วย 2.บางพลี เหลือขาย 6,008 หน่วย 3.เมืองสมุทรสาคร เหลือขาย 4,572 หน่วย 4.บางใหญ่ เหลือขาย 4,337 หน่วย และ 5.ลำลูกกา เหลือขาย 4,136 หน่วย
ส่วน 5 อันดับแรกที่มีการเปิดโครงการแนวราบใหม่มากที่สุดในช่วงไตรมาส 3/59 ได้แก่ 1.บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย เปิดใหม่ 2,350 หน่วย 2.ลำลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ เปิดใหม่ 2,340 หน่วย 3.ตลิ่งชัน-บางแค-ภาษีเจริญ-หนองแขม-ทวีวัฒนา เปิดใหม่ 1,780 หน่วย 4.เมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก เปิดใหม่ 1,640 หน่วย และ 5.สมุทรปราการ 1,480 หน่วย จะเห็นว่ามี 4 พื้นที่ที่แม้จะมีหน่วยเหลือขายติดโผ 5 อันดับแรก แต่ผู้ประกอบการยังมีการเปิดตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง คือ บางบัวทอง บางใหญ่ บางพลี(สมุทรปราการ) และลำลูกกา
ธนบุรีมาแรงขายเกลี้ยง
สำหรับโครงการแนวสูงเหลือขายมากที่สุดช่วงครึ่งปีแรกปี’59 ได้แก่ 1.อ.เมืองนนทบุรี เหลือขาย 9,966 หน่วย 2.อ.เมืองสมุทรปราการ เหลือขาย 7,206 หน่วย 3.ธัญบุรี เหลือขาย 5,189 หน่วย 4.จตุจักร เหลือขาย 2,932 หน่วย และ 5.บางซื่อ เหลือขาย 2,932 หน่วย
ในขณะเดียวกันพบว่าพื้นที่ที่มีห้องชุดเปิดใหม่ค่อนข้างมากแต่ยังมีการดูดซับดี ได้แก่ เขตธนบุรี มีหน่วยระหว่างขายทั้งหมด 5,881 หน่วย แต่มีหน่วยเหลือขายน้อยมาก จะเห็นได้ว่าพื้นที่นี้มีรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเขียวที่เปิดใช้บริการแล้ว ช่วงสถานีกรุงธนบุรี-บางหว้า และสายสีน้ำเงินช่วงสถานีบางซื่อ-ท่าพระ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และเขตธนบุรีเป็นเขตที่มีการเปิดขายห้องชุดจำนวนมากที่สุดในไตรมาส 3/59 ด้วย มีการเปิดขายทั้งหมด 4,280 หน่วย