ลาแล้วปีเก่า 2565 ผ่านไปไวแบบไม่ทันตั้งตัว ปีนี้อสังหาเรามีสีสันมากขึ้นหลังจากที่ต้องฝ่าฟันมรสุมโควิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
วันนี้ติดดอยของเราเลยขอสรุปประเด็นที่น่าสนใจของอสังหาไทยในช่วงรอบปีที่ผ่านมาให้เราทุกคนได้รีวิวไปพร้อม ๆ กันว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง
และที่สำคัญปีหน้าฟ้าใหม่ 2566 ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ตลอดปีก็ไม่รู้จะเป็นยังไง วงการอสังหาจะกลับมาสู่ยุคเฟื่องฟูได้หรือไม่
หรือถ้าเกิดมรสุมขึ้นมาอีกเราจะสามารถนำประเด็นจากปีที่ผ่านมาไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปรีวิวอสังหาในรอบปี 2565 กันเล๊ยยยย
1. บ๊ายบาย LTV สิ้นสุดปีนี้ ดีกรีอสังหาปีหน้าอาจลดลง!!!
มาตรการช่วย LTV เค้าออกมาช่วยให้เรามีบ้านกันง่ายขึ้น พอประกาศว่าจะสิ้นสุดคนก็ต้องเร่งตัดสินใจกันเป็นธรรมดา ผลคือปีนี้คนแห่โอนบ้านทะลุ 1 ล้านล้านบาท!!!
จากข้อมูลของ ‘ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ’ เค้าระบุว่ายอดนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เก็บสถิติมาเลยนะ ทั้งนี้ก็เพราะคนหวั่นราคาที่อยู่อาศัยจะดีดตัวขึ้น 5-10% จากต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่สูงขึ้น
ซึ่งจากแรงซื้อขายอสังหาฯในช่วงสิ้นปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กำลังซื้อในปีหน้าจะลดลง โดยมีโอกาสติดลบเหลือ 320,227 ยูนิตหรือลดลง 14% และมูลค่าลดลงเหลือ 953,404 ล้านบาทลดลง 4%
แต่!!! เค้าก็มีการพยากรณ์กันนะว่าการไม่ต่ออายุมาตรการผ่อนคลาย LTV จะส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยอย่างจำกัด โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุน
รวมไปถึงผู้ซื้อที่อยู่อาศัยกลุ่ม Real demand ในสัญญาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 หรือ 3 เป็นต้นไป โดยผลกระทบก็คือจะเกิดการชะลอซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2566
ทั้งนี้การไม่ต่ออายุมาตรการจะไม่ส่งผลกระทบต่อการซื้อที่อยู่อาศัยกลุ่ม Real demand ในสัญญาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสัญญาแรกนะ เพราะผู้ซื้อที่อยู่อาศัยยังสามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาแรกได้เต็มจำนวนเช่นเดิม
2. นิวไฮแบบไม่ขายฝัน เดฟเจ้าใหญ่ยอดดีถล่มทลาย
ตลอดปีที่ผ่านมาเราต่างรับรู้กันได้เลยว่าเศรษฐกิจมันเริ่มฟื้นแล้วจริง ๆ อย่างภาคอสังหาเราเนี่ยนอกจากจะมีมาตรการช่วยต่าง ๆ ก็ยังมีปัจจัยที่เอื้อให้ซื้อในปี 2565 มาก ๆ
ผลก็ตามคาดแหละครับ พอผู้บริโภคต้องการซื้อ ก็ถึงเวลาที่บรรดานักพัฒนาทั้งหลายจะได้ปล่อยของกันอย่างเต็มที่ ยอดก็เลยดีทำสถิติกันไปหลายเจ้าหลายราย
อย่างพี่ใหญ่แสนสิริเนี่ยว๊าวมาก แค่เดือนธันวาคมเดือนนี้เดือนเดียว สามารถทำผลงานโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าได้สูงถึง 9,000 ล้านบาท
คิดแล้วก็เท่ากับโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67% ผลักดันให้กำไรสุทธิฯ ของแสนสิริปี 65 พุ่งสูงสุด ทะยานสู่ New Record High ทุบทุกสถิติผลงานกำไรสูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 38 ปี!!!
ส่วนเอพีก็ไม่น้อยหน้านะ ยอดรวมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาเค้าสามารถสร้างรายได้นิวไฮสูงสุดถึง 37,566 ล้านบาท คิดเป็น 80% จากเป้ารายได้รวมทั้งปีที่ 47,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นอกจากนี้ยังมีผลงานยอดขายที่สร้าง New Record สูงสุดที่เอพีเคยทำได้ด้วย โดยในสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มียอดขายมากถึง 45,408 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% ของเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ที่ 50,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 46% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า!
3. งานแฟร์เริ่มกลับมา อสังหาถึงเวลาปล่อยของ!!!
อีกหนึ่งสีสันการใช้ชีวิตของผมในปีนี้ก็คือการได้กลับมาเดินงานแฟร์ งานมหกรรมเนี่ยแหละ คิดถึงฟีลนี้มากนะ เพราะตั้งแต่โควิดมาก็ไม่มีงานพวกนี้ให้เดินเลย
ซึ่งนอกจากงานหนังสือ งานของกิน ของเซลล์แล้ว อย่าลืมว่างานแฟร์อสังหาก็เป็นอีกงานที่เราจะได้ไปออกล่าโปรอสังหาราคาดีกันนะ
ที่พอจำได้ก็อย่างมหกรรมบ้านและคอนโด ช่วงโควิดที่ผ่านมาต้องมูฟไปจัดแบบออนไลน์กันแทน พอกลับมาจัดออนไซต์ก็ได้ได้รับผลตอบรับดีเกินคาดเลย
มียอดผู้เข้าชมงานประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แถมการซื้อขายภายในงานมีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท ไม่รวมกับยอดคนที่ตัดสินใจหลังจบงานอีกนะ ปังมาก
อีกงานก็ "ANANDA URBAN PULSE 2022" ที่แฟน ๆ อนันดาต่างเฝ้ารอ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะเค้าปล่อย 3 แบรนด์ใหม่ COCO, CULTURE และ ANDA มาสร้างความฮือฮาให้หลายคนตาลุกวาว
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง สามารถสร้างยอดขายรวมกว่า 6,000 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายรวมหลังจบงาน ประมาณ 5,000 ล้านบาท และยอดขายจากการเปิดจอง Online Booking อีกกว่า 1,000 ล้านบาท!!!
4. รัฐขอคิดใหม่ ต่างชาติซื้อที่ดินได้ต้องพักก่อน!!!
เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันหนักหน่วงเลยตอนที่รัฐบาลประกาศว่าจะให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ได้ เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน
โดยมีเงื่อนไขว่าต่างชาติที่ซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ ต้องเป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท และต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
แม้จะมีเจตนาที่ต้องการสร้างมูลค่าการลงทุนให้กับเศรษฐกิจ แต่คนไทยอย่างเราพอรู้ว่าจะเสียที่ดินให้กับต่างชาติไปแล้วก็ยังคิดหนัก
ทำให้หลายคนต่างพากันจับประเด็นถึงเรื่องของผลดีและผลเสียที่ต่างชาติจะเข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทย ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป
ซึ่งในที่สุดรัฐก็ยอมฟังเสียงประชาชนครับ ถอนมติคณะรัฐมนตรี กรณีร่างกฎกระทรวงต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยมีเงื่อนไขเงินลงทุนขั้นต่ำ 40 ล้านบาท ออกไปแล้ว
โดยทางรัฐเค้าก็บอกว่าถอนมติเพื่อนำกลับไปศึกษาใหม่นะ พวกเราเองก็ต้องคอยเกาะติดกันไป อนาคตอาจจะมีมาตรการแนวนี้กลับมาอีกก็ได้
5. ปรากฏการณ์คอนโดถูกขายดี บ้านแพงขายดีมาก!
เป็นปรากฎการณ์ที่ปราบทฤษฏีเศรษฐกิจอสังหาเลยก็ว่าได้ เพราะช่วงโควิดที่ผ่านมาแม้วงการอสังหาเราจะเจอมรสุมอย่างหนัก แต่กลับมีบางส่วนที่อยู่รอด!!!
ซึ่งส่วนที่รอดและยังไปต่อได้เรื่อย ๆ กลับไม่ใช้กลุ่มคนชั้นกลาง แต่เป็นกลุ่มคนที่มองหาคอนโดราคาต่ำและบ้านแนวราบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคโควิดมากกว่า
โดยบรรดานักพัฒนาเค้าก็ต่างบอกนะว่าคอนโดที่มีราคาต่อยูนิตไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือราว ๆ ตรมละไม่เกิน 70,000 บาท คือน่าทำขายมากที่สุด
แม้ที่ผ่านมาตลาดคอนโดในกลุ่ม Super Economy แบบนี้จะมีอัตราส่วน Reject Rate สูงที่สุด แต่ด้วยความที่ตลาดมีฐานกว้างแบบ Mass มาก ๆ จึงทำให้มีดีมานด์ใหม่ ๆ เข้ามาทดแทนกลุ่ม Rejection ได้ตลอดเวลา
ส่วนแนวราบที่ขายดี แต่ที่ขายได้แน่ ๆ ก็ต้องเป็นบ้านหรูราคาเกิน 20 ล้านบาทขึ้นไปในทำเลเมือง เพราะดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าหันกลับมาทำโครงการบ้านที่มีราคาสูงกันเพิ่มขึ้น
โดยแต่ละโครงการก็อยู่ในทำเลที่สามารถเชื่อมต่อเข้าย่านอื่น มีการกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ แม้แต่ในกรุงเทพชั้นใน อีกทั้งทิศทางบ้านหรูในซอย และไซส์เล็กมีแนวโน้มมากขึ้นอีกด้วย
เป็นไงกันบ้างครับ ประเด็นที่น่าสนใจของวงการอสังไทยในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา นี่ไม่รวมพวกข่าวเด็ด ข่าวดัง ที่เป็นประเด็นของสังคมจากแต่ละค่ายนะ
โดยรวมแล้วผมว่าปีที่ผ่านมาถือเป็นอีกปีที่วงการอสังหาเราประสบความสำเร็จ และกลับมาฟื้นคืนชีพได้อย่างดี แม้จะมีมาตรการช่วยแต่ดีก็คือดีนั่นแหละ
สิ่งที่น่ากลัวคือปีหน้าที่จะมาถึง... เพราะมาตรการที่ช่วยและส่งเสริมให้คนตัดสินใจลงทุนนั้นเริ่มจะไม่เหลืออยู่แล้ว แถมเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับสูง และดอกเบี้ยเงินกู้แพงขึ้นด้วย
บวกกับการที่กลุ่ม Real Demand หรือนักลงทุนเองก็ตามเร่งการตัดสินในไปภายในปีนี้ ทำให้ปีหน้ากำลังซื้ออาจจะไม่เยอะและเหลือพอให้เห็นตัวเลขสวย ๆ เท่าไหร่
สัดส่วนตลาดที่จะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน บ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ซัพพลายใหม่ออกน้อยลงเรื่อยๆ เพราะความเข้มงวดของสินเชื่อ
โดยตลาดจะไปแข่งขันกันที่ตลาดระดับกลาง ตั้งแต่ราคา 5-8 ล้านบาทขึ้นเป็นเป็นหลัก แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดว่าอสังหาไทยปีหน้าจะเป็นยังไง?
Tag : ติดดอยรวมมาให้ | อสังหาริมทรัพย์ | อสังหาไทย
ตอนที่ ‘The Line วงศ์สว่าง’ ขายหมด ผมยังคิดอยู่เลยว่า ‘แสนสิริ’ น่าทำโครงใหม่เส้นสีม่วงเพิ่มอีก หลายคนไม่ชอบรถไฟฟ้าเส้นนี้ แต่ในฐานะ ‘ชาวนนทบุเรี่ยน‘ ผมยังเชียร์คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีที่ถัดจากสถานี ‘เตาปูน’ ไปสัก 3-4 สถานีอยู่นะ
นี่คือคอนโดใหม่แกะกล่อง ที่อยู่ใกล้กับ "บางหว้า" สถานีรถไฟฟ้า interchange ของ 2 สายที่คนใช้งานเยอะที่สุด อย่างสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน
เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“
อ้าว!! โกวศุ สอยไปซะแล้ววว ที่ดินข้างๆ ซอยตากสิน 14 ที่ก่อนหน้านี้ ตรงนี้เป็นที่ดินที่ 'แสนสิริ' จะสร้างเป็นโครงการ 'NYX by Sansiri' ก่อนจะยุบโครงการภายหลัง
นานๆ ทีจะมีคอนโดท่าพระโผล่มา เพราะจะว่าไปดีเวลลอปเปอร์มักจะขยับไปตั้งโครงการกันทางโซน สถานีจรัญ-บางพลัด กันมากกว่า
ไม่ทำแล้วมิกซ์ยูส ทำคอนโดดีกว่า เพราะทำเลมันสวยด้วยความชิดติดริมถนนพหลฯ แบบนี้
แวะไปจิบกาแฟพร้อมเลือกหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ "ร้านหนังสือริมขอบฟ้า" Book cafe ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้!
ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งได้เห็นหน้า คุณเบลล่า ราณี ที่มาเปิดร้านคาเฟ่ "Jo’s 365" แสนอร่อย ที่ตั้งอยู่ใน Sales Gallery ของ "Reference Sathorn-Wongwianyai" ได้ไม่ทันไรเลย
คอนโดใจกลางอโศก 175,000 บ./ตร.ม.?! ไม่อยากเชื่อสายตา จนต้องอ่านซ้ำ 3 รอบ 555 ราคาอย่างกับย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน
เอาจริงกดดันเหมือนกันนะ สำหรับโครงการที่สร้างมาตรฐานไว้สูงอยู่แล้ว เมื่อออกมาบอกว่าจะปรับใหม่นี่ก็ย่อมเป็นที่น่าจับตา
ล่าสุดประเทศบราซิลเตรียมสร้าง 'หอคอยเซนนา' (Senna tower) ตึกระฟ้าที่จะมาเป็นหอคอยที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในโลก (ไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุดในโลกนะ)
"Day and Night Park" ไอเดียร้านหนังสืออิสระแบบป็อบอัพจากปักกิ่งที่ช่วยทำให้คนเข้าถึงสื่อสิ่งพิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิม