ยังเป็นกระแสมาข้ามปีเลยครับสำหรับ “ทุนจีนสีเทา” ที่ได้สร้างแรงกระเพื่อมวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดบ้านหรู เป็นสินค้ายอดนิยมของคนจีนซื้อในนามบริษัทสัญชาติไทยจดทะเบียนถูกต้อง
แต่จากปรากฏการณ์ “ตู้ห่าวเอฟเฟกต์” ได้เขย่าขวัญคนจีนไปไม่ใช่น้อย เท่าที่รู้มาเห็นว่าแห่ทิ้งใบจองกันเพียบเลยนะ เพราะเกรงผลกระทบที่จะตามมาสะท้อนปัญหาอสังหาฯใต้พรมที่หลบซ่อนกันอยู่ 555
จากกรณีดังกล่าว “มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้เสนอแนวทางการแก้ไข โดยบอกว่าที่ดีที่สุดคือการนำทุกอย่างขึ้นมาบนโต๊ะคนที่เคยซื้อใต้โต๊ะให้มาซื้อบนโต๊ะ จะได้รู้จำนวนที่ชัดเจน
1. เปิดนิรโทษกรรม! แก้ไขปัญหาเดิมด้วยการเปิดนิรโทษกรรมจากการใช้ นอมินี ให้มาโอน ให้ถูกต้อง จะเก็บภาษีเท่าไรก็ว่ากันไป หากทำจริงจะได้เงินจากคนกลุ่มนี้มหาศาล รัฐจะได้ค่าโอนจากคนกลุ่มนี้จำนวนมากและคนต่างชาติที่ซื้อสบายใจไม่ต้องอยู่แบบหลบซ่อนๆ ไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกดำเนินคดี อันนี้รัฐได้ประโยชน์
2. ดำเนินการตรวจสอบตามกฏหมาย เช่น กระทรวงพาณิย์ การจดทะเบียนบริษัทต้องไปติดตามดูถ้ายื่นงบเปล่าต้องตรวจสอบ เหมือนกรณีตู้ห่าว หากตรวจพบมีความผิดดำเนินการตามกฏหมายภายใน 180 วัน เพื่อผลักดันให้คนที่ทำผิดกฏหมายออกมาดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมายและ กดดันกลุ่มคนที่กระทำความผิดไม่กล้าที่ทำต่อไป
3. สำหรับการซื้อขายบ้านใหม่ให้กับคนต่างชาติจะต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนว่า ต้องดำเนินการอย่างไร ให้ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้ซื้อส่วนใหญ่คนต่างชาติต้องการซื้อบ้านโดยมีการศึกษาจากกลุ่มผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย นักวิชาการ นักธุรกิจสมาคมอสังหาฯ นักกฏหมาย นักเศรษฐศาสตร์ เพื่อหาขอสรุปที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนที่ภาครัฐเข้ามาดำเนินการ
ส่วนการเปิดให้เช่าระยะยาว ยังมี "ช่องว่าง” ทำให้คนสามารถซื้อบ้านผ่านนอมินีได้จะไม่ก่อให้เกิดประโยน์อะไรเหมือนกับเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดแทนที่รัฐจะได้ประโยชน์กลับไม่ได้ประโยชน์ เพราะก่อนหน้านี้มีการจดทะเบียนซื้อบ้านเลี่ยงกฏหมายกันมานานแล้ว ดังนั้นควรเร่งอุดช่องว่างที่เกิดขึ้น
ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย ให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านได้ภายใต้ข้อจำกัด นำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยทำให้ประเทศไทยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ