"บ้าน" คำสั้นๆ แต่มีความหมายมากมายมหาศาลสำหรับต่อจิตใจสำหรับทุกๆ คน ความมหาศาลนี้ไม่เพียงแต่มูลค่าทางจิตใจเท่านั้นครับ แต่มันยังรวมถึงมูลค่าทรัพย์สินอีกด้วย
ดังนั้นเวลาจะซื้อบ้านแต่ละครั้งก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนในหลายๆ อย่างด้วยความที่มันเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งในแง่ของจิตใจและในแง่ของราคานี่แหละครับ
เวลาที่เรายื่นกู้บ้าน ธนาคารเค้าเลยพิจารณาหลายๆ อย่าง เคยได้ยินไหมครับว่า คนอายุเยอะๆ มักจะกู้ผ่านยากกว่าคนที่อายุยังน้อย เคสนี้คิดว่าทุกคนคงรู้สาเหตุเนอะว่าทำไมคนแก่ถึงกู้ยาก หรือบางทีธนาคารก็ไม่ปล่อยกู้เลยด้วยซ้ำ
ในเมื่อการผ่อนบ้านแต่ละหลัง คนส่วนใหญ่มักจะเลือก 30-40 ปี แต่อายุเฉลี่ยนมนุษย์ไม่ได้ยืนยาวขนาด 100 ปีขนาดนั้น คนชราหลายๆ คนเลยหมดสิทธิ์จะยื่นกู้ไปโดยปริยาย
แต่เอ๊ะ!! ชีวิตของคนเรานั้นล้วนไม่มีความแน่นอน บางคนก็ล้มหายตายจากไปทั้งที่อายุยังน้อยๆ ในเมื่อโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เลือกเพศหรืออายุแบบนี้ แล้วมีใครเคยตั้งคำถามครับว่าถ้าสมมุติเรา Say Goodbye ลาโลกไประหว่างที่ยังผ่อนบ้านไม่หมด คนข้างหลังต้องจัดการยังไงต่อนะ!!
คำตอบมีมากมายเลยครับ เพราะเราต้องแยกเป็นประเภทของการกู้ก่อนเป็นสองประเด็นใหญ่ๆ ก่อน ได้แก่กู้แบบฉายเดี่ยว กับ กู้ร่วม
ประเด็นแรก กู้คนเดียว ถ้าหากว่าเราทำการกู้คนเดียวเลยแต่ระหว่างทางเราดันซี้แหงแก๋ซะก่อน ทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด รวมถึง "หนี้สิน" ตามกฎหมายหลังเราเสียชีวิต ทรัพย์สินและหนี้สินจะต้องถูกส่งต่อ หรือตกทอดเป็นมรดกไปสู่ทายาทตามกฎหมาย หรือถ้าสมมุติใครรอบคอบมีการ พินัยกรรมไว้ก่อนเสียชีวิต ผู้ที่อยู่ในพินัยกรรมก็จะได้รับผลประโยชน์ไปโดยปริยาย และใช่ครับเค้าก็ต้องเป็นคนใช้หนี้ต่อจากเราด้วยนะ หรือที่เราเรียกกันว่า "หนี้ที่เป็นมรดก" นั่นแหละ
ประเด็นที่สอง ทำการกู้ร่วม ถ้าเราเสียชีวิต ผู้กู้ร่วมของเรายังคงทำการผ่อนบ้านต่อจากเราได้ทั้งหมดตามสัญญาและกฎหมาย แต่การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของสินเชื่อบ้านจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องแจ้งให้ธนาคารทราบว่าผู้กู้ร่วมเสียชีวิต ทีนี้ทางธนาคารก็จะทำการเรียกทายาทของเรา หรือผู้จัดการมรดกของเราเพื่อเข้ามาลงชื่อแสดงเจตจำนงรับสภาพหนี้ ภายใน 1 ปี ซึ่งมันก็คือการที่ธนาคารเรียกทายาทของเราไปอยู่ในฐานะลูกหนี้ของธนาคารแทนเรานั่นเอง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรรู้อยู่นะ คือทายาทของเราเนี้ยต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
แล้วถ้าทายาท หรือ ผู้รับมรดกของเราไม่ยอมรับในการผ่อนบ้านต่อหลังจากที่เราเสียชีวิตไปแล้วล่ะ?
ประเด็นนี้ก็เป็นประเด็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าหากมีกรณีนี้ ธนาคารก็จะขายบ้านสู่ท้องตลาด ซึ่งเค้าก็จะประเมินราคาก่อน หากขายได้ตามจำนวนหนี้ที่เราได้ทำการกู้ไว้ ทีนี้ผู้รับมรดกจะไม่ต้องทำการผ่อนต่อละ แต่!! หากไม่สามารถทำการขายได้ตามจำนวนที่เราได้ทำการกู้กับธนาคาร ผู้รับมรดกจะต้องผ่อนต่อตามจำนวนเงินที่ "คงเหลือ" หลังจากธนาคารได้ขายบ้านเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่หากทายาทหรือผู้รับมรดกของเรายินยอมที่จะผ่อนบ้านต่อ ทางธนาคารเค้าก็จะทำการประเมินสภาพบ้าน และหนี้สินให้ใหม่หมด คือจะประเมินตามที่ผู้กู้คนใหม่จะสามารถผ่อนได้นั่นแหละ แต่ถ้าหากว่าทายาทหรือผู้รับมรดกของเราที่จะมาเป็นผู้กู้รายใหม่ไม่ได้รับการอนุมัติ เคสนี้ธนาคารจะดำเนินการปล่อยขายสู่ท้องตลาด แล้วจะต้องทำตามเงื่อนไขเหมือนในกรณีที่แล้วเลยฮะ
แล้วถ้าเป็นกรณีที่เรามีประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านล่ะ??
เวลาเราซื้อบ้านแต่ละครั้งเนี้ย หลายๆ คนก็เลือกที่จะทำประกันเอาไว้ด้วย ทีนี้มันจะมีประกันชีวิตแบบที่คุ้มครองบ้านกับธนาคารเอาไว้ด้วย ซึ่งถ้าหากเราทำเอาไว้เนี้ยเวลาเราเสียชีวิตก่อนจะผ่อนบ้านหมด คนข้างหลังก็จะชิลๆ เลยเพราะหลังจากเราเสียชีวิตธนาคารจะต้องเป็นผู้จ่ายทั้งหนี้บ้านที่เหลือทั้งหมดนั่นเอง ทายาทหรือผู้ได้รับมรดกของเราก็จะสบายรอรับบ้านไปแบบสวยๆ หล่อๆ กันเลยไม่ต้องเป็นหนี้หรือผ่อนต่อละ
เห็นไหมครับว่าการจะซื้อบ้านแต่ละครั้งเนี้ย ต้องรู้ดีเทลอะไรหลายๆ อย่างแบบละเอียดเลยนะครับ อย่างกรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีที่ใกล้ตัวมากๆ นะ เพราะชีวิตของคนเราเนี้ยไม่แน่นอนอยู่แล้ว ทางที่ดีผมว่าศึกษาเอาไว้ไม่เสียหายครับ เพื่อสิทธิประโยชน์ ของเราเนอะ แต่ถ้าเป็นผมเลือกได้คงทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านนี่แหละครับ สบายๆ เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่มีภาระตกไปถึงลูกถึงหลานด้วยเนอะ!!
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ