ความรู้สึกแรกของผมตอนยืนอยู่ในโครงการ "FYNN Asoke" คือ...เหมือนไม่ได้อยู่อโศก!
แปลกมั้ยล่ะ แต่มันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ครับ อารมณ์เหมือนอยู่รีสอร์ทเขาใหญ่ไม่ใช่อโศก
เพราะทั้งลมธรรมชาติ ทั้งสีเขียวของต้นไม้ บวกสีฟ้าของน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับตอนกระทบเข้ากับแสงแดด มันเหมือนปิดกั้นทุกอย่างที่อยู่เลยนอกรั้วออกไป กันความเป็นอโศกออกไป แล้วพาเราเข้าไปอยู่ในโอเอซิสแห่งใหม่แทน
พูดแล้วอาจดูเว่อร์เนอะ แต่ฟังจากปากผมคนเดียวคงตัดสินอะไรไม่ได้อยู่แล้วล่ะ
เพราะงั้นเตรียมไปงาน OPEN HOUSE ชมตึกจริงครั้งแรกกันในวันที่ 4-5 ก.พ.นี้ ได้เลยครับ (อ้าว เพิ่งเริ่มก็ขายของเฉยซะงั้น 5555)
มันจังหวะเหมาะพอดีนั่นแหละ เลยอยากเชียร์ให้คนที่สนใจอยากหาคอนโดในโซนสุขุมวิทตอนต้นได้ลองแวะไปชมกันก่อนก็เท่านั้นเอ๊งงงงง
"FYNN Asoke" เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โครงการที่สาม ภายใต้แบรนด์ “FYNN” เจาะตลาดกลุ่มนิช พรีเมียม ที่ชูจุดเด่นทำเลทอง ติดสวนเบญจกิติโดยใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที
ที่สำคัญคืออยู่ใจกลางอโศก บนสุขุมวิทซอย 10 ห่างจากสถานีบีทีเอสอโศก เพียง 350 เมตร เท่านั้น!
ความจริงนี่คือจุดขาย แต่ผมจะบอกก่อนว่าพื้นที่โครงการมันใกล้กับรถไฟฟ้า 3 สถานีเลย
สถานีแรกคือจุดขายหมายเลข 1 ของเค้าคือบีทีเอสสถานีอโศก แต่อีกสถานีหนึ่งก็คือนานาครับ จะใช้สถานีไหนก็ได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าระยะห่างก็พอๆ กัน แต่ที่เชียร์ทางสถานีอโศกมากกว่าเพราะมีสกายวอร์คจากตัวสถานียื่นมาให้จนถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 10
ในขณะที่ถ้าจะไปทางฝั่งสถานีนานาจะต้องเดินข้างถนนแทน
อีกสถานีหนึ่งคือรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท ซึ่งเป็นอินเตอร์เชนจ์ของสถานีอโศก และตรงจุดนั้นก็เป็นที่ตั้งของ Terminal 21 ด้วย
มาถึงพื้นที่โครงการ ต้องบอกก่อนว่าซอยสุขุมวิท 10 เป็นซอยเล็กๆ ถนนในซอยอาจจะแคบไปนิด รอบข้างเป็นอาคารโลว์ไรส์ทั้งหมด ทั้งคอนโดทั้งอพาร์ตเม้นต์ต่างๆ และที่สำคัญคือซอยนี้เป็นซอยตันครับ
ซอยตันดียังไง? มันดีตรงที่จะได้ความเป็นไพรเวซี่มากกว่านี่แหละ พวกทราฟฟิกเสียงต่างๆ ก็น้อยกว่า เหมาะจะเป็นที่อยู่อาศัยที่สุด แต่ก็เหมาะกับไลฟ์สไตล์ด้วยเพราะใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มี Korean Town อยู่ปากซอยสุขุมวิท 12 อีกต่างหาก
แต่ที่ชอบมากๆ คือมันเหมือนโอเอซิสเลยครับ
"FYNN Asoke" เหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติมาก เพราะตัวโครงการเป็นโอเอซิสน้อย ส่วนหลังบ้านจะเป็นโอเอซิสใหญ่
โอเอซิสน้อยคือมีต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 60 ปียืนต้นอย่างงดงามภายในโครงการ บน rooftop เองก็แปลงให้เป็นสวนลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เชื่อมต่อทั้งสองอาคารเอาไว้ด้วยกัน
ส่วนโอเอซิสใหญ่คือสวนเบญจกิตติ ที่เดินไปเพียง 200 เมตรก็ถึง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนที่ต้องการใช้ชีวิตในเมือง พร้อมใกล้ชิดธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ด้วยจุดเด่นที่เน้นความสงบและความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวเหมาะสำหรับคนเมืองที่สนใจการดูแลตนเองและรักการออกกำลังกายรวมถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
เอาไปบอกใครต่อใครก็ได้ว่าเรามีสวนหลังบ้านเป็นสวนขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ นะ
"FYNN Asoke" เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ตกแต่งพร้อมอยู่สูง 8 ชั้น 2 อาคาร มีห้องชุดรวมทั้งหมด 263 ห้อง
แบ่งเป็น อาคาร A จำนวน 144 ห้อง และอาคาร B จำนวน 119 ห้อง พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างครบครัน
ไม่ว่าจะเป็นห้องรับรองแขก co-working space ฟิตเนส ห้องขี่จักรยานจำลอง ห้องโยคะ ห้องดูหนัง ศาลาจามจุรี สระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร สระเด็กและถ้ำจำลอง ฯลฯ
ไฮไลท์คือสิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้า พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ที่รวมเอาทั้งสวน พื้นที่ออกกำลังกาย แปลงปลูกผัก ระเบียงชมพระอาทิตย์ตก ฟอเรส เลานจ์ ครัวกลางแจ้ง เตาบาร์บีคิว เครื่องเล่นสำหรับเด็ก ฯลฯ เอาไว้ในที่เดียวกัน
ผมค่อนข้างชอบในฝั่งของ Facilities โครงการนี้ เพราะรู้สึกได้ว่าเค้าพยายามเดเวลลอปทุกส่วนให้มันเข้ากันได้ อย่าง rooftop garden ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงการใช้พื้นที่ทั้งหมดให้เป็นประโยชน์
แม้จะมีสองอาคารแต่ด้านบนตรงนี้จะใช้สะพานเชื่อมทั้งสองตึกเข้าด้วยกัน เชื่อมพื้นที่สีเขียวบน rooftop ให้เป็นแผ่นเดียว อาจมีเดินงงๆ หลงอยู่ในหมู่แมกไม้บ้าง แต่สรุปคือพื้นที่กว้างขวางมาก แม้ไม่เหมาะกับช่วงเที่ยงวัน (เพราะร้อนสุดๆ) แต่ถ้าขึ้นมาใช้งานตอนเย็นหรือช่วงค่ำ ชมวิวเมืองไปด้วย มันจะฟินสมชื่อเลยล่ะครับ
ตัวฟิตเนสเองก็เน้นการใช้งานจริง มีวิวสระเหนือหัวให้ด้วย เก๋ดี ส่วนสระว่ายน้ำใหญ่ตกแต่งสวยงาม co-working ที่ชั้น 1 ข้างล็อบบี้เป็นโมเดิร์นลิฟวิ่ง มีแอเรียให้ลูกบ้านใช้งานได้ ส่วนการจอดรถมีทั้งแบบปกติและออโต้ครับ
ทางด้านรูปแบบห้องชุดของโครงการ จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 แบบ
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.99 ล้านบาท ตก 2 แสน/ตร.ม. ส่วนกลางราคา 70 บ./ตร.ม./ด
ห้องตัวอย่างที่ผมได้ดูมาจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด แต่ว่าจะเป็นคนละฟังก์ชั่น ก็คือวิวต่างกันด้วย
อย่าง 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นคือ 8.8 ล้าน ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะแม้จะมีห้องน้ำห้องเดียวแต่เข้าได้ทั้งจากด้านนอกและในห้องนอน
ห้องอเนกประสงค์คือสิ่งแรกที่สะดุดตาเพราะสวยมาก สามารถ take view โครงการและต้นจามจุรีได้ (แม้ต้นจามจุรีจะถูกตัดกิ่งไปเยอะเพื่อให้เข้ากับพื้นที่โครงการก็เถอะ)
โพรดักส์ที่นี่จะได้เป็น ceiling window ครับ แสดงความลักชัวรี่ แล้วก็ให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาในห้องได้มากขึ้น ทำให้ดูโปร่งโล่งสบาย พื้นเป็นไฮบริดเอนจิเนียร์ เพดานฉาบเรียบ พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า ทำให้พื้นที่ดูไม่ตันเท่าที่ควร
การตกแต่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่แอบดูตันๆ ไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นจุดเด่นมันคือทำเลเนอะ ยังไงคนที่ชอบความ Inner Sukhumvit ก็พร้อมจ่ายอยู่แล้ว
แล้วก็ดีเทลเล็กๆ ที่ชอบคือช่วงข้างเตียงจะมีพื้นที่เล็กๆ เหลือไว้ และเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกไปเพื่อใช้ระเบียงได้ ในห้องนอนสามารถใส่เตียงใหญ่สุดคือ 6 ฟุตก็ยังมีพื้นที่เหลือ แต่ช่วงปลายเตียงยังแอบแคบนิดหน่อย อาจเดินผ่านลำบาก
ลืมบอกไปว่าช่วงโปรเค้าจะให้เฟอร์ฯ ที่คล้ายกับห้องตัวอย่างด้วยนะ โดยเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจแต่ละไทป์จะไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าเราเลือกแบบไหน ส่วนฟลอร์นึงมีห้องสูงสุดไม่เกิน 20 ห้องครับ
ตัวเด่นตัวตึงน่าจะเป็นห้องชั้นล่าง 40 ตร.ม. Pool Access ตัวนี้เป็น 1 ห้องนอนไซส์ซิงใหญ่ ราคาอยู่ที่ 9.2 ล้าน ห้องนี้เหมือนรีสอร์ทโฮมเลย เหมือนไม่ได้อยู่สุขุมวิท และไทป์นี้มีระเบียงห้องติดกับสระว่ายน้ำด้วย นึกครึ้มอกครึ้มใจก็เปิดประตูโดดตูมลงสระได้เลย 5555
คืออย่างในห้องนอนมองออกไปก็เห็นสระน้ำอยู่นอกระเบียงแล้ว คนที่ชอบอะไรแบบนี้น่าจะฟิน เพราะราคาเท่านี้ในโซนนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจคือไม่มีความเป็นส่วนตัวแน่ๆ เพราะมันเป็นสระใหญ่ที่คนในโครงการมาใช้งานตลอด ตัวสระอยู่ตรงกลาง เรสซิเดนต์ตัวตึกล้อมรอบ แล้วมันไม่มีราวกั้นให้ เพราะงั้นทั้งเจ้าของห้องหรือคนใช้งานสระอาจจะเขินๆ หน่อยเวลาจ๊ะเอ๋กันเนอะ
อ้อ แล้วก็อีกอย่างที่อยากเล่าคือตึกเค้าซีเคียวริตี้สูงมากกกก คือต้องใช้การ์ดแตะทุกชั้นเลย ประตูส่วนกลางเปิดนานไม่ได้ ไม่งั้นน้องจะร้องเตือน เอาเป็นว่าสบายใจเรื่องความปลอดภัยได้เลยล่ะ
เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีข้อดีในหลายๆ เรื่อง แล้วตั้งแต่ช่วงพรีเซลส์ปี 2562 โครงการเค้าก็ได้รับความสนใจล้นหลามมาตลอด ขายไปได้เกือบ 80% ลูกค้าต่างชาติมีเข้ามาดูเรื่อยๆ วันที่ผมไปก็มีต่างชาติวัยเกษียณเข้ามาดูเหมือนกัน
อีกอย่างคือ ดีมานด์สุขุมวิทตอนต้น ไล่ตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 1 - เอกมัยมันพุ่งสูงมาตลอดครับ เป็นโลเคชันที่ไพรม์และมีความต้องการไม่ขาดสาย คอนโดในย่านนี้ไม่เคยว่างนะ รองมาคือโซนสีลม-สาทร กับพวก Outer Sukhumvit อย่างแถวบางนา ก็คือใครอยากลงทุนนี่ได้กำไรแน่อยู่แล้ว
บวกกับโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางที่เพียงพอเหลือเฟือ หลังบ้านเป็นสวนเบญจกิตติขนาดใหญ่ หน้าซอยเป็นชูวิทย์คอมเพล็กซ์ที่กำลังก่อสร้าง เยื้องไปนิดเป็นรถไฟฟ้าและห้างดังขนาดใหญ่ สกายวอล์กก็มีให้ ศูนย์สิริกิตติ์ก็รีโนเวทเสร็จพอดี ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เข้ามาหนุนให้ "FYNN Asoke" ดูโดดเด่นที่สุดในย่านจริงๆ
หลังจากนี้เอนทรานซ์เข้ามาในซอยก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ ราคาเริ่ม 4.99 ล้านนับว่าเหมาะสม แต่เห็นผู้บริหารบอกว่าหลังพ้นช่วงโปรไปราคาก็จะไม่ขยับเพิ่มสูงไปเร็วนักเมื่อเทียบกับตัวอื่นแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความฮอตของโครงการก็น่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2566 เพราะงั้นใครที่ลังเลอาจมีเวลาให้ตัดสินใจได้ไม่นานนักนะ 4-5 ก.พ.นี้ แวะไปชมแล้วตัดสินใจกันได้ครับ
Tag :
คอนโดพร้อมเฟอร์ฯราคาแค่ 1.25 ล้านบาท แต่ได้เรตค่าเช่าแถว 7,000 บ./เดือน คิดเป็นยิลด์ผลตอบแทนเบื้องต้นถึง 7%!!
สมัยวัยละอ่อน เคยคิดว่า "หาดใหญ่" เป็นจังหวัด น่าอายจัง ฮิฮิ เคยมีใครเป็นเหมือนผมไหม? คือมันรู้สึกมีความเจริญไง มีที่ท่องเที่ยว มีห้างใหญ่ๆ มีมหาวิทยาลัย
หลังจากที่ทาง "พฤกษา" หรือ "พี่ต้นไม้" ของพวกเรา เว้นวรรคการเปิดโครงการใหม่มาได้ระยะหนึ่ง มีการปรับพอร์ต เคลียร์สต๊อกระดับแสนล้านไปได้เยอะทีเดียว ขายดีจนเหลือไม่เยอะล่ะ
เห็นลือกันว่าเตรียมเปิดขายปีหน้า ผมเลยแวะมาดูภาพรวมทำเลเค้าเสียหน่อย
เมื่อช่วงปีก่อนมีข่าวว่า "Supalai Parc เอกมัย - พัฒนาการ" ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าพิกัดโครงการนั้นอยู่ตรงไหน?
ตัวบิดากลับมาอีกครั้ง!! SOHO BANGKOK Come back again!! กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ 'Soho' ของทางฝั่งค่ายส้ม อิอิ หลังจากเห็นที่ดินแปรงสวยปากซอยสุขุมวิท 48 ว่างมานาน ในที่สุดก็ทราบแล้วว่า 'ออริจิ้น' เข้าจับจองเป็นเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย ปักหมุดผุดโครงการคอนโดใหม่อย่าง "SOHO BANGKOK SUKHUMVIT" (โซโห แบงค็อก สุขุมวิท)
ในที่สุด ก็ถึงฤกษ์งามยามดี "พี่สิบหมื่น" จะเปิดแผงให้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้วนะ กับ "dcondo sand Hatyai"
ดอกเบี้ยบ้านปรับขึ้นอีกแล้ว!!! ตอนนี้ทุกธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ MRR , MLR , MOR กันทุกธนาคารแล้วนะครับ
ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามนุษย์เรานี่แหละที่เป็นวายร้าย ทำลายทรัพยากรธรรมชาติไปเยอะมาก และสิ่งที่ตามมาก็คือ การขาดแคลนทรัพยากร รวมถึงปัญหา Climate change อีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 'สิ่งก่อสร้าง' ที่ทำขึ้นมาจาก 'เห็ดรา' กัน!!
ไปเวียดนามทั้งที ก็อยากจะทำอะไรที่มันดูเป็นวิถีโลคอลหน่อย
ได้ยินคนบอกมาหลายเสียงว่าร้านนี้วิวเค้าดีจริง ก็เล่นอยู่ตรงข้าม Icon Siam วิวที่ได้ก็เลยเห็นตัวห้างแบบเต็ม ๆ เวลาฝั่งนั้นจัดงานอะไร ฝั่งนี้ก็เห็นบรรยากาศไปด้วย
ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปยลโฉมโครงการ Nirvana หลายโครงการ ซึ่งต้องบอกว่า ชอบทุกครั้งที่ไปนะ