ขึ้นเหนือไปดูตลาดอสังหาภาคเหนือกันหน่อยครับ เรียกได้ว่าการเปิดประเทศไม่ได้ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ แค่กรุงเทพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทางภาคเหนือก็ได้รับอาณิสงค์นี้ไปด้วย ล่าสุดทาง “อรสิริน” ชี้สัญญาณคึกคัก งานนี้จ่อเปิดโครงการใหม่ 4,600 ล้าน หนุนดีมานด์ไทย-ต่างชาติ ระบุ ชาวพม่า ,เกาหลี ,ญี่ปุ่น แนวโน้มซื้อ บ้าน-คอนโดฯ 3 ล้านอัพ เพิ่มขึ้น

        อรสิริน โฮลดิ้ง เผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดที่เคยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด19 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มคนในพื้นที่ และ กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แต่ต้องการมีที่พักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ มีความต้องการโครงการประเภทบ้านเดี่ยวหรือคอนโดระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อและความสามารถในการกู้ยืมเงิน รวมถึง มาตรการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ

        สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นคนพื้นที่ จะนิยมบ้านหรือคอนโดที่ระดับราคาสูงกว่า 3 ล้านบาทซึ่งปัจจุบันชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ มากกว่าครึ่งยังคงเป็นชาวจีน โดยหลังจากจีนเริ่มทำการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ จะถือเป็นปัจจัยบวกและโอกาสในการขายของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทเริ่มเห็นว่า นอกจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนแล้ว ชาติอื่นๆมีแนวโน้มเข้ามาซื้อโครงการอสังหาฯ เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน อาทิ พม่า ญี่ปุ่น เกาหลี และชาวต่างชาติโซนยุโรป

        ทั้งนี้ ในปี 2566 มีแผนเปิดตัวโครงการกว่า 7 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท และโครงการแนวสูงอีก 3 โครงการมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท เน้นการออกแบบให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และ การพัฒนาคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถเอื้อมถึงได้ ด้วยการปรับฟังก์ชันห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการพัฒนาโครงการในทำเลที่ยังมีช่องว่างทางการตลาดและมีกำลังซื้อที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ในตลาดเชียงใหม่ ช่วยขยายฐานการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น