ไปเวียดนามทั้งที ก็อยากจะทำอะไรที่มันดูเป็นวิถีโลคอลหน่อย
และหนึ่งในไลฟ์สไตล์สุดแสนจะโลคอลที่พบได้ในเวียดนามก็คือ...การดื่มกาแฟ นี่แหละครับ
ช่างเป็นประเทศที่วัฒนธรรมกาแฟเข้มข้นอะไรขนาดนี้ เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนล้วนแล้วแต่เห็นร้านกาแฟเปิดอยู่แทบทุกร้อยตารางเมตร มีมากพอๆ กับร้านเฝอเลยแฮะ
ทั้งร้านกาแฟแบบดั้งเดิม และร้านกาแฟสไตล์คาเฟ่ร่วมสมัย เอาเป็นว่ามีเยอะมากมายจนเลือกไม่ถูก
นอกจากนั้นที่ผมชอบมากๆ คือเค้าดื่มกาแฟกันได้ทั้งวันจริงๆ ร้านกาแฟที่นี่ส่วนใหญ่มักจะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยิงยาวไปจนถึง 4-5 ทุ่มเลยนะ
ครั้งนี้ผมอยู่แถว Old Quater ใกล้กันกับทะเลสาบ Hoàn Kiếm บริเวณนี้เองก็มีร้านกาแฟให้เลือกเยอะเหมือนกัน
ถ้าอยากได้ร้านใหญ่ๆ วิวดีๆ ดื่มไปชมวิวทะเลสาบไป จะมีร้านดังจับจองอยู่ 3 มุม ตั้งแต่เช้ายันดึกก็เห็นคนเต็มร้านตลอด แต่มองไปมองมาก็เจอแต่ฝรั่งหัวทอง
ไอ้เรามันกำลังมองหาสิ่งที่เป็นโลคอล เพราะอย่างนั้นเลยถามเพื่อนว่า "มาเวียดนามต้องกินกาแฟ แต่กาแฟอะไรดีล่ะ"
ได้คำตอบมาว่า "ก็ต้องกาแฟไข่สิ"
กาแฟโอท็อปของบ้านเค้าก็คือกาแฟไข่จริงๆ ครับ เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตของคนเวียดนาม ส่วนใหญ่เป็นร้านแนวออริจินัล พบเจอได้มากในฮานอยและโฮจิมินห์
ครั้งนี้โชคดีที่ผมอยู่ฮานอย เลยพบว่าร้านแรกที่เริ่มต้นทำกาแฟไข่นี้ก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง นักท่องเที่ยวไปกันเยอะ นั่นคือร้าน "Giang Café" ในตำนาน
แต่ผมไม่ได้ไป Giang Café ครับ (แล้วเจอจะเกริ่นทำไม 5555)
ต้องบอกก่อนว่าเพราะมันเป็นร้านดังทำให้คนเข้าไปเยอะ ทั้งคนบ้านเค้า ทั้งนักท่องเที่ยว เรียกว่าแน่นขนัดตั้งแต่เช้า ยิ่งไปกว่านั้นสมัยก่อนการซื้ออสังหาในเวียดนามไม่ง่าย พื้นที่ที่ร้านซื้อได้ในช่วงปี 1946 จึงเป็นตึกเล็กๆ ทางเข้าแคบมาก ชนิดที่ไม่สังเกตก็คงจะเดินผ่านเลยไป สมฐานะร้านลับไม่หยอก
แต่ว่าด้านในคนแออัด บวกกับสูบบุหรี่กันควันฟุ้งไปหมด ไม่สู้จริงๆ ตัดสินใจยกธงยอมแพ้ แล้วมองหา "กาแฟไข่" ร้านอื่นดื่มแทน
ได้ความมาว่า "เอาเข้าจริงมันยังมีอีกร้านที่ทำกาแฟไข่ออกมาได้รสชาติดีกว่าร้านต้นตำรับนะ" เป็นงั้นไป ถามไปถามมาก็ถึงบางอ้อว่าร้านที่ว่านั้นอยู่เยื้องๆ กันกับ Giang Café เลยครับ มีชื่อว่า “Café Lâm” ขายกาแฟไข่เหมือนกัน
ดังนั้นผมเลยเปลี่ยนเป้าหมาย ไปหาซื้อกาแฟไข่ที่ร้านนี้เอง ซึ่งความประทับใจแรกคือมีหน้าร้านติดถนนให้เห็น เพราะงั้นจึงหาไม่ยาก
สองคือแม้จะไปตั้งแต่เช้า แต่ด้านล่างก็มีคนเวียดนามจับจองที่นั่งดื่มกาแฟกันเยอะแล้ว แล้ววิถีการดื่มของคนที่นี่มักจะชอบนั่งหน้าร้านกันครับ มีเก้าอี้เตี้ยๆ จัดวางไว้ให้ แล้วก็ใช้เวลายามเช้ากันอย่างนั้นเอง
ชั้นล่างไม่มีที่นั่งแล้ว แต่ยังดีที่มีพื้นที่ชั้นสองให้ ผมเลยเลือกที่จะนั่งชั้นสองแทน แต่ก่อนขึ้นไปก็สั่งกาแฟตรงเคาน์เตอร์ด้านล่างก่อนนะ
ปัญหาอยู่ตรงนี้...ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ
เจ้าของร้านยื่นเมนูภาษาเวียดนามมาให้ พอถามว่ามีเวอร์ชันภาษาอังกฤษมั้ยแกก็บอกว่าทรานสเลตเอานะ ผมก็ฮ่าๆ ได้แต่เปิดหาตัวช่วยในอินเทอร์เน็ตประกอบ สุดท้ายจิ้มๆ มาสองอย่าง เพราะตรงเคาน์เตอร์ค่อนข้างวุ่นวาย ตามประสาคนไทยขี้เกรงใจ รีบจิ้มแล้วก็รีบจรดีกว่า
แต่พื้นที่้ร้านด้านบนถือว่าโล่งมากครับเมื่อเทียบกับด้านล่าง อาจเพราะคนเวียดนามเค้าชอบนั่งมองวิวถนนอยู่ด้านล่างกันล่ะมั้ง ด้านบนเหลือที่นั่งเยอะมาก มีคนนั่งอยู่ก่อนแค่สองคนเท่านั้น
ร้านกาแฟที่นี่ชอบมีที่นั่งริมระเบียงให้ด้วย วิวดีมากๆ มองไปเห็นวิถีชีวิตยามเช้าสไตล์เวียดนามได้เต็มๆ
รอไม่นานกาแฟก็มาเสิร์ฟ ได้กาแฟไข่มาหนึ่งแก้ว และอีกแก้วเป็นกาแฟไข่มะพร้าว
ตอนนั้นไอ้เราก็จิ้มมั่ว มั่นใจแค่กาแฟไข่ แต่มะพร้าวมาไงนี่ก็สงสัยอยู่ แถมตอนนั้นอากาศราวๆ 19 องศา เจือกสั่งกาแฟเย็นมาอีก กุมขมับแล้วหนึ่ง
สำหรับกาแฟไข่แก้วเล็กจิ๊ดเดียวครับ รูปแบบของมันคือเครื่องดื่มที่ทำจากไข่แดง น้ำตาล นมข้น และกาแฟโรบัสตา อาศัยการตีไข่แดงกับน้ำตาลและนมข้น สกัดกาแฟตามลงไปครึ่งแก้ว ออกมาในรูปแบบของการดื่มเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดื่มฟองนุ่มๆ
ตอนแรกเข้าใจว่าอาจจะคาว แต่ก็ไม่เลย กลับกันให้ฟีลเหมือนกำลังดื่มทีรามิสุ รสชาติเหมือนกันเปี๊ยบ แต่เครื่องดื่มตัวนี้จะเป็นฟองเต็มแก้ว ติดจะหวานๆ หอมๆ ยัมมี่ในระดับหนึ่ง แต่น้องแก้วเล็กไปหน่อย ดื่มไม่กี่อึกก็หมดแล้ว
ส่วนกาแฟไข่มะพร้าวเป็นรูปแบบของกาแฟเย็นปั่น หวานอีกเช่นเคย แต่มีรสมะพร้าวค่อนข้างเข้มทีเดียว เพื่อนผมบอกว่าเหมือนกาแฟชงร้านรถเข็นบ้านเราที่เอาไปปั่นกับน้ำแข็ง เออ ก็เหมือนอยู่ เหมือนตรงที่ปริมาณความหวาน 5555
หลังจากวันนั้นผมก็ทยอยเข้าร้านกาแฟต่ออีกทุกวัน กลับมาก็ซื้อกาแฟติดมือมาด้วย แล้วในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่ากาแฟเวียดนามเน้นไปทางหวานนำซะมากครับ
ถ้าไม่อยากได้หวานก็ต้องสั่งจำพวก black coffee ไปเลย แต่ถ้าสั่งกาแฟโฮมเมดสไตล์เวียดนามแล้วล่ะก็จะต้องเจอรสหวานก่อนแน่ๆ
แต่สำหรับกาแฟไข่นี่ผมคิดว่าทำเองที่บ้านก็น่าจะไม่ยากนะ วิธีทำน่าจะคล้ายๆ กับ Dalgona Coffee ของเกาหลีที่ฮิตกันช่วงโควิดระบาดใหม่ๆ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากาแฟช่วงกักตัว แค่ตีๆ จนมันขึ้นฟองก็นับว่าเสร็จ และถ้าทำเองก็สามารถควบคุมส่วนผสมให้ถูกลิ้นเราได้ด้วย
ถือเป็นกาแฟที่หอมเข้มละมุนใจในแก้วเดียว แม้จะหวานไปนิดแต่ก็ให้เท็กซ์เจอร์แปลกใหม่ที่ชวนให้อยากลองอีกเรื่อยๆ เหมือนกัน
Tag :
คอนโดพร้อมเฟอร์ฯราคาแค่ 1.25 ล้านบาท แต่ได้เรตค่าเช่าแถว 7,000 บ./เดือน คิดเป็นยิลด์ผลตอบแทนเบื้องต้นถึง 7%!!
สมัยวัยละอ่อน เคยคิดว่า "หาดใหญ่" เป็นจังหวัด น่าอายจัง ฮิฮิ เคยมีใครเป็นเหมือนผมไหม? คือมันรู้สึกมีความเจริญไง มีที่ท่องเที่ยว มีห้างใหญ่ๆ มีมหาวิทยาลัย
หลังจากที่ทาง "พฤกษา" หรือ "พี่ต้นไม้" ของพวกเรา เว้นวรรคการเปิดโครงการใหม่มาได้ระยะหนึ่ง มีการปรับพอร์ต เคลียร์สต๊อกระดับแสนล้านไปได้เยอะทีเดียว ขายดีจนเหลือไม่เยอะล่ะ
เห็นลือกันว่าเตรียมเปิดขายปีหน้า ผมเลยแวะมาดูภาพรวมทำเลเค้าเสียหน่อย
เมื่อช่วงปีก่อนมีข่าวว่า "Supalai Parc เอกมัย - พัฒนาการ" ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าพิกัดโครงการนั้นอยู่ตรงไหน?
ตัวบิดากลับมาอีกครั้ง!! SOHO BANGKOK Come back again!! กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ 'Soho' ของทางฝั่งค่ายส้ม อิอิ หลังจากเห็นที่ดินแปรงสวยปากซอยสุขุมวิท 48 ว่างมานาน ในที่สุดก็ทราบแล้วว่า 'ออริจิ้น' เข้าจับจองเป็นเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย ปักหมุดผุดโครงการคอนโดใหม่อย่าง "SOHO BANGKOK SUKHUMVIT" (โซโห แบงค็อก สุขุมวิท)
ดอกเบี้ยบ้านปรับขึ้นอีกแล้ว!!! ตอนนี้ทุกธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ MRR , MLR , MOR กันทุกธนาคารแล้วนะครับ
ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามนุษย์เรานี่แหละที่เป็นวายร้าย ทำลายทรัพยากรธรรมชาติไปเยอะมาก และสิ่งที่ตามมาก็คือ การขาดแคลนทรัพยากร รวมถึงปัญหา Climate change อีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 'สิ่งก่อสร้าง' ที่ทำขึ้นมาจาก 'เห็ดรา' กัน!!
ไปเวียดนามทั้งที ก็อยากจะทำอะไรที่มันดูเป็นวิถีโลคอลหน่อย
ได้ยินคนบอกมาหลายเสียงว่าร้านนี้วิวเค้าดีจริง ก็เล่นอยู่ตรงข้าม Icon Siam วิวที่ได้ก็เลยเห็นตัวห้างแบบเต็ม ๆ เวลาฝั่งนั้นจัดงานอะไร ฝั่งนี้ก็เห็นบรรยากาศไปด้วย
ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปยลโฉมโครงการ Nirvana หลายโครงการ ซึ่งต้องบอกว่า ชอบทุกครั้งที่ไปนะ
หมูเกาหลีที่มาจาก itaewon แท้ๆ มาเปิดใน พารากอน เป็นสาขาแรก อร่อยมาก! ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างภาพลักษณ์ของร้านเลย