'ดุสิตธานี' ปักหมุดประเทศ 'เคนยา' นำความเป็นไทยสู่ต่างประเทศกับการเปิดตัว ‘ดุสิตปริ้นเซส โฮเทล เรสซิเด้นซ์ ไนโรบี’ ชูจุดเด่นด้านที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมืองหลวงศูนย์กลางธุรกิจย่านเวสต์แลนด์ และยังอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติไนโรบี
หลังจาก 'โรงแรม ดุสิตปริ้นเซส โฮเทล เรสซิเด้นซ์ ไนโรบี' เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดกลุ่มดุสิตธานีได้เปิดให้บริการโรงแรมแห่งนี้อย่างเต็มรูปแบบแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งโรงแรมโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจ รวมถึงจุดเด่นเรื่องห้องพักและอพาร์ทเม้นท์ขนาดกว้างขวาง ร้านอาหารและบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนแล้ว
โรงแรมยังผสมผสานการให้บริการแบบดุสิต หรือ 'Dusit Graciousness' ที่ให้ความสำคัญกับ 4 แกนหลัก คือ บริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service) บริการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) บริการที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชน (Locality) และบริการที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (Sustainability) ทำให้เชื่อมั่นว่า โรงแรมแห่งนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดี และมีส่วนในการช่วยสร้างสีสันที่น่าตื่นเต้นในอุตสาหกรรมการบริการของไนโรบีอย่างแน่นอน
ทั้งนี้โรงแรมไฮบริดแห่งนี้ได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยมในสไตล์ร่วมสมัย ประกอบด้วย ห้องพักและอพาร์ทเม้นท์ขนาดกว้างขวางทั้งหมด 100 ห้อง โดยแยกเป็นห้องดีลักซ์ 14 ห้อง ห้องสตูดิโอ 30 ห้อง และอพาร์ทเมนท์แบบ 1 ห้องนอน จำนวน 56 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ ในส่วนของร้านอาหาร ประกอบด้วย ร้านอาหารแบบ แกร็บ-แอนด์-โก, ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อ “ดิ โอลีฟ” นำเสนอบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า รวมถึงอาหารนานาชาติและอาหารท้องถิ่นจานโปรดที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี และบาร์บนชั้นดาดฟ้าชื่อ “อลาวรี่ เลานจ์ บาร์” ที่มาพร้อมวิวที่สวยงามของเมืองหลวง
โดย ณ ปัจจุบันกลุ่มอสังหาฯ ในเครือดุสิตธานี ครอบคลุม 17 ประเทศ ประกอบด้วย โรงแรม 49 แห่งที่ดำเนินงานภายใต้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต และวิลล่าระดับลักซ์ชูรีมากกว่า 300 หลังภายใต้แบรนด์ อีลิธ เฮเวนส์ และยังมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตมากกว่า 60 แห่งทั่วโลกที่อยู่ในแผนการก่อสร้างและดำเนินการ
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ