เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เหมือนจะเจอแต่คนที่เริ่มหันมาลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใช้เองที่บ้านกันเพียบเลยครับ
โครงการบ้านทั้งหลายเอง เหล่าดีเวลลอปเปอร์ก็เริ่มเดินทางสายนี้เหมือนกันนะ
เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น แถมยังช่วยประหยัดการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อีกต่างหาก
ใครคนไหนที่ใช้ไฟฟ้าเยอะๆ ในช่วงเวลากลางวันนี่เหมาะมาก แต่ถึงอย่างนั้นก่อนจะติดตั้งก็มีเรื่องให้พิจารณามากมาย
ติดแล้วบ้านเราจะหน้าตาเหมือนโรงงานไฟฟ้าหรือเปล่า? ติดแล้วจะคุ้มทุนมั้ย? ต้องรอนานเท่าไหร่ถึงจะทุนคืน? เดี๋ยววันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันดีกว่าครับว่ามีเรื่องไหนบ้างที่มือใหม่อยากติดแผงโซลาร์เซลล์ใช้เองที่บ้านต้องรู้กัน
1. ความพร้อมของบ้าน
ก่อนติดตั้งเราต้องมาพิจารณาก่อนว่าบ้านเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะความต่างของระบบโซลาร์เซลล์กับระบบไฟฟ้าทั่วไปนั้นอยู่ตรงที่ว่าการใช้ไฟฟ้าทั่วไปคือการผลิตรอไว้แล้วค่อยซื้อตามที่ใช้จริง แต่ว่าระบบโซลาร์เซลล์จะต่างกันเพราะผลิตเฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น
ที่เราต้องตรวจดูคือกำลังไฟภายในบ้าน ดูว่าเราใช้กำลังไฟเท่าไร ควรเลือกติดโซลาร์เซลล์ขนาดไหนจึงจะเหมาะสม โดยใช้หลักการคือการคำนวณค่าไฟที่จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งแบบที่คุ้มที่สุดคือบ้านที่เน้นใช้ไฟช่วงกลางวัน มีคนอยู่บ้านประจำ หรือปรับให้บ้านเป็นโฮมออฟฟิศ แบบนี้ก็จะถือว่าคุ้มกับการลงทุนติดตั้งที่สุดครับ
2. โครงสร้างความแข็งแรงของหลังคา
โดยทั่วไปแผ่นโซลาร์เซลล์จะมีขนาดอยู่ที่ 1x2 เมตร โดย 1 แผ่น จะมีน้ำหนักประมาณ 22 กิโลกรัม เราควรให้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าหลังคาหรือดาดฟ้าของเรามีความแข็งแรงเพียงพอมั้ย
หากวัสดุที่ใช้ปูหลังคา เกิดรอยแตกร้าว หรือกระทั่งรอยรั่วธรรมดา เราก็ต้องทำการรีโนเวทใหม่เมื่อพบว่าหลังคาเราไม่แข็งแรงมากพอ เพราะน้ำหนักของการติดโซลาร์เซลล์บ้านคือน้ำหนักที่ต้องรับไปนานอีกหลายสิบปี หากหลังคาไม่แข็งแรงอาจเกิดปัญหาใหญ่ตามมาทีหลังได้
นอกจากนี้ยังต้องดูประเภทหลังคาด้วย แม้หลังคาทุกรูปทรงสามารถติดตั้งแผ่นโซลาร์เซลส์ได้ทั้งหมด แต่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป โดยหลังคาทรงจั่วเป็นหลังคาแบบที่สามารถติดโซลาร์เซลล์ได้ง่ายที่สุดจ้า
3. การทำเรื่องขอติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
เดี๋ยวนี้เรามักเห็นคลิปสอนการตั้งตั้งแผงโซลาร์เซลล์ง่ายๆ ด้วยตัวเองกันเยอะ แต่ถ้าอยากชัวร์ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยติดตั้งให้ดีกว่านะ สำหรับการทำเรื่องขอติดตั้งนั้นอาจต้องใช้เวลา 1-2 เดือนเลยทีเดียว หลังจากสำรวจสถานที่และตรวจสอบพื้นที่เรียบร้อยก็ต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ไปยื่นที่การไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครับ
สำหรับส่วนนี้มีเอกสารและขั้นตอนการดำเนินงานที่จุกจิกยุ่งยากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะต้องติดต่อไปยังหลายหน่วยงาน อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย ดังนั้นหลายคนจึงมักจะเลือกใช้บริการบริษัทตัวแทนในการดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทนเพื่อประหยัดเวลา
4. อายุการใช้งานและการดูแล
สำหรับบริษัทที่ได้มาตรฐานมักจะออกแบบอุปกรณ์มาให้สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ปีครับ และโดยทั่วไปผู้ผลิตจะมีการรับประกันแผงโซลาร์เซลล์อยู่ที่ 25 ปี การรับประกันส่วนนี้ก็มีผลต่อราคาสินค้าเหมือนกันนะ ถึงอย่างนั้นในเรื่องการบำรุงรักษากลับง่ายมากเพราะเป็นระบบอัตโนมัติอยู่แล้วจึงแทบไม่ต้องคอยดูแลรักษามากเลย
สิ่งที่เราควรทำคือหมั่นตรวจสอบสภาพแผงโซลาร์เซลส์ว่ามีรอยรั่วรอยร้าวหรือไม่ และทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกบนแผงครับ โดยใช้อุปกรณ์ที่จะไม่ทำให้เกิดรอยข่วน อย่างฟองน้ำหรือแปรงขนไนลอน และความถี่ในการทำความสะอาดอยู่ที่ 4-5 ครั้งต่อปี เลือกล้างในช่วงเช้าจะดีที่สุดนะ
5. ลงทุนเท่าไหร่ คืนทุนนานมั้ย
เรื่องที่ทุกคนอยากรู้คือจะคุ้มกับค่าติดตั้งมั้ย สำหรับราคาของการติดตั้งตามบ้านพักอาศัยจะมีตัวเลขคร่าวๆ ที่ประมาณ 25-40 บาท/Wp ขึ้นอยู่กับ add-on ต่างๆ ว่าอุปกรณ์ที่เราอยากได้นั้นมีขนาดเท่าไรหรืออยากได้เซอร์วิสแบบไหนเพิ่มเข้ามาบ้าง
ส่วนในเรื่องของการคืนทุนนั้น โดยทั่วไปถ้าเป็นบ้านพักอาศัยและช่วงกลางวันใช้ไฟเยอะก็จะอยู่ที่ประมาณ 6-7 ปีครับ แต่หากช่วงกลางวันใช้ไฟน้อยก็อาจจะ 10 กว่าปีขึ้นไป ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์โซลาร์เซลล์จากผู้ผลิตด้วยเหมือนกัน จะคุ้มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้นี่เอง
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ