ได้ข่าวคราวมาสักพักแล้วว่า สตรีมมิงยักษ์ใหญ่ "Netflix" จะยกเลิกการหารบัญชี และก่อนหน้านี้ก็มีการทดสอบไปในบางประเทศแล้ว ล่าสุดพี่ไทยก็ไม่รอด
ตอนนี้ "Netflix" ได้เริ่มส่งอีเมลแจ้งเตือนไปยังบรรดาคนที่แชร์บัญชีกัน แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้วนะ ว่าใครที่ยัง "หารร่วม" กันแบบนี้อยู่จะต้องจ่ายเพิ่มเดือนละ 99 บาท
สำหรับอัพเดตใหม่นี่ได้แจ้งอย่างละเอียดแล้วว่า บัญชี Netflix มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน และหลังจากนี้ไปจะมีการจัดการบัญชีที่หารกันแต่อยู่กันคนละบ้านด้วย
โดยระบบใหม่นี้จะจดจำว่าบัญชีที่ใช้ดูอยู่ที่บ้านไหนเป็นหลัก (ดูจาก IP) และถ้าหากเจอว่ามีการใช้งานนอกบ้าน ก็จะมีการส่งรหัส OTP ไปให้ผู้ใช้งานตอบภายใน 15 นาทีครับ
ดังนั้นใครที่มีตี้หารและอยู่คนละบ้านกัน (ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น) อาจจะใช้งานยุ่งยากลำบากกว่าเดิมไม่น้อย
เพราะนอกจากจะต้องยืนยันตัวตนด้วยวิธีด้านบนแล้ว การใช้บัญชีหารร่วม ยังต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเดือนละ 99 บาทด้วย
สำหรับค่าบริการจะตามนี้ครับ
เน้นย้ำตรงนี้ว่า หากไม่ได้รับชมผ่านทีวีหรือกล่องรับสัญญาณที่มีผล ก็ไม่จำเป็นต้องยืนยันครัวเรือนสำหรับบัญชีใช้งานครับ แต่ใครอยากเชื่อม สามารถเชื่อมต่อทีวีได้แค่ 1 เครื่อง/บัญชี เท่านั้น ถ้าอยากเชื่อมเพิ่มก็ต้องเพิ่มเงิน แต่ถ้าเป็นกรณีของอุปกรณ์เคลื่อนที่ (โน้ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, ไอแพด, มือถือ ฯลฯ) เชื่อมได้ตามปกตินะ
ในกรณีที่ใครมีบ้านหลังที่สองหรือเปิดดูที่ทำงานบ่อย เดินทางบ่อย หรืออะไรก็ตามแต่ แล้วต้องการใช้งานบนทีวี ให้ใช้มือถือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไวไฟเดียวกันกับที่เชื่อมกับทีวีเครื่องหลักที่บ้าน จากนั้นเปิดแอป Netflix ในมือถือเพื่อเช็คอิน (เดือนละครั้ง) ก่อนออกเดินทาง
สรุปง่ายๆ คือ
ยกตัวอย่าง: หากตี้เรา ราคา 419 มีทั้งหมด 4 โปรไฟล์ สามารถดูได้ปกติแม้อยู่คนละบ้าน แต่จะรับชมผ่านทีวีได้เพียง 1 บ้านเท่านั้น หากบ้านอื่นอยากดูบนทีวีบ้างต้องซื้อโปรไฟล์เสริม
คำแนะนำคือ ถ้าไม่อยากเสี่ยงโดนปิดบัญชีแบบงงๆ ให้ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตเดิม ทีวีเครื่องเดิม ในสถานที่เดิม และในหนึ่งบัญชีพยายามอย่าเข้าใช้งานบนทีวีแบบต่างสถานที่พร้อมกันเกิน 1 เครื่อง
สำหรับโหมดการแชร์บัญชีนั้นเป็นกลยุทธ์ที่ Netflix ใช้ เพื่อผลักดันให้คนหันมาสมัครใช้งานสตรีมมิงของตัวเอง แต่ตอนนี้ Netflix กำลังต้องการให้คนมีบัญชีของตัวเองและงดการแชร์กัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อยอดผลประกอบการมากหรือน้อยยังไง ในเมื่อทุกวันนี้มีสตรีมมิงหลายเจ้าที่พัฒนาคอนเทนต์ดีๆ มาให้ผู้บริโภคเลือกชมกันมากมาย แถมยังไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจเท่านี้ด้วยนะ
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ