หลังจากที่สายสีเหลืองเปิดครบทุกสถานีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางเราอาจจะรีวิวช้าไปหน่อย แต่ก็มานะ อิอิ
จริงๆ ต้องบอกว่าผมเองนั้นค่อนข้างที่จะตื่นเต้นกับการมาของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองพอสมควร (จริงๆ ก็ตื่นเต้นกับทุกๆ สี) เพราะคอนโดตามแนวสายสีเหลืองเริ่มเยอะละ จะได้มารีวิวสะดวกๆ 5555
น้องเก๊กฮวยแนะนำตัว
ก่อนอื่นเรามารู้จักตัวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หรือที่ชาวเน็ตตั้งชื่อเอาไว้ว่าน้องเก๊กฮวยกันก่อนดีกว่าครับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลไร้คนขับสายแรก ที่มีเส้นทางวิ่งตั้งแต่ลาดพร้าว-สำโรง โดยจะผ่านเส้น ลาดพร้าว , ศรีนครินทร์ , ถนนเทพารักษ์ , แบริ่ง , พัฒนาการ , หัวหมาก ฯลฯ
เส้นทางการเดินรถจะวิ่งผ่านทั้งหมด 8 เขต ตั้งแต่เขตจตุจักร , ห้วยขวาง , วังทองหลาง บางกะปิ , สวนหลวง , ประเวศ , บางนา และ สมุทรปราการ
โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 23 สถานี ได้แก่
1. ลาดพร้าว
2. ภาวนา
3. โชคชัย 4
4. ลาดพร้าว 71
5. ลาดพร้าว 83
6. มหาดไทย
7. ลาดพร้าว 101
8. บางกะปิ
9. แยกลำสาลี
10. ศรีกรีฑา
11. หัวหมาก
12. กลันตัน
13. ศรีนุช
14. ศรีนครินทร์ 38
15. สวนหลวง ร.9
16. ศรีอุดม
17. ศรีเอี่ยม
18. ศรีลาซาล
19. ศรีแบริ่ง
20. ศรีด่าน
21. ศรีเทพา
22. ทิพวัล
23. สำโรง
ตัวรถไฟฟ้าในขบวนจะมีทั้งหมด 4 ตู้ แต่ละตู้จะมีที่นั่งประมาณ 14 ที่นั่ง 4 ประตูเข้า-ออก มาพร้อมจอแสดงผล 4 จอ ความจุ 356 คนต่อตู้ เป็นรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับ วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองถือว่าเป็นรถไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดหากเทียบกับสายสีอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยอย่างสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง เน้นยืนมากกว่านั่ง
ส่วนตัวที่ผมใช้บริการรู้สึกว่าการเดินรถค่อนข้างกระตุกหน่อยๆ ไม่ค่อยวิ่งแบบลื่นๆ แบบสายสีเขียว น้ำเงิน และม่วง แต่ก็ไม่ถึงกับฉึกกะฉักมากแบบสายสีทอง (คือดีกว่าสายสีทองนะ) ไม่ได้แย่อย่างที่คิด 555 คงเพราะไม่ใช่ล้อยางล่ะมั้ง
มุมมองตอนวิ่งผ่านเส้นทางบางช่วงแอบหวาดเสียว โดยเฉพาะบริเวณโค้งเข้าสถานีแยกลำสาลี คนกลัวความสูงมองลงล่างอาจจะมีเสียวๆ ขาหน่อยแหละ แต่โดยรวมไม่แย่เลย ร่นระยะเวลาการเดินทางได้ดีมากๆ
สภาพสถานีหลายๆ แห่งยังไม่เต็ม 100% ณ วันที่ผมมารีวิวนะครับ อย่างสถานีแยกลำสาลีเนี้ย แอบรู้สึกว่าสายสีส้มที่ยังไม่เปิดดูมีความพร้อมพอๆ กับสายสีเหลืองที่อยู่ข้างบนเลย 5555
4 สถานี Interchange รู้ไว้ไม่หลง เดินทางสะดวกขึ้นเยอะ
วันนี้นอกจากจะมารีวิวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้ว เราจะเจาะลึกเส้นทางการเดินทาง กับจุด Interchange กันด้วยครับ โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะมีสถานี Interchange ทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่ สถานีลาดพร้าว , สถานีแยกลำสาลี , สถานีหัวหมาก และสถานีสำโรง
- สถานีลาดพร้าว Interchange
สถานีนี้เป็นสถานีต้นทาง เชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงิน มาในชื่อสถานีเดียวกันเลย คือ สถานีลาดพร้าว สามารถเลือกใช้สถานีนี้เพื่อเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพได้ ด้วยการใช้บริการสายสีน้ำเงิน เข้าสู่จตุจักร เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปเส้นสุขุมวิทที่ BTS หมอชิต วิ่งตรงเข้าสู่สยาม หรือ หรือเข้าสู่ฝั่งธนบุรี นั่งยาวๆ ผ่านเตาปูน เข้าสู่ท่าพระและหลักสอง ข้อเสียคือสถานีนี้เป็น Interchange ที่แอบเดินไกลหน่อยนะครับ
- สถานีแยกลำสาลี Interchange
สถานีแยกลำสาลี เป็นสถานีที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มาเชื่อมต่อ ข้อดีก็คือ ไม่ต้องเดินเชื่อมต่อเส้นทางไกลแบบสถานีอื่นๆ เดินทางลงจากสถานีก็เจอเลย (อารมณ์เดียวกับสถานีสุขุมวิทและสถานีอโศก) นอกจากนี้ในอนาคตตรงนี้จะมีสายสีน้ำตาลมาเชื่อมต่ออีกด้วย
อนาคตช่วงสถานีแยกลำสาลี ค่อนข้างเป็นสถานีที่ต้องจับตามองในแง่ของทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งในเรื่องของการคมนาคม และแหล่งไลฟ์สไตล์ จริงๆ ตรงนี้ก็ใกล้กับเดอะมอลล์ บางกะปิ อยู่เหมือนกันนะ ตอนนี้ 'IDEO รามฯ-ลำสาลี' กำลังสร้างอยู่เลยครับ ในอนาคตคงมีเพื่อนบ้านพี่โอริโอ้เพิ่มขึ้นแน่
- สถานีหัวหมาก Interchange
สถานีที่ Interchange แบบ Trio โดยสามารถเชื่อมต่อเส้นทางทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่วิ่งตั้งแต่พญาไท-สุวรรณภูมิ สามารถใช้ ARL เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย หรือจะไปสนามบินก็ถือว่าสะดวกเลยครับ และอีกเส้นทางที่เชื่อมต่อก็คือรถไฟสายตะวันออก อีกด้วย สถานีนี้ค่อนข้างคึกคักเพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย มีคอนโดขึ้นในย่านนี้ค่อนข้างเยอะ แถมยังเป็นพิกัดที่ใกล้สถานศึกษาดัง อาทิ สถาบันไทย-ญี่ปุ่น , มหาวิทยาลัยรามคำแหง , โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ฯลฯ
- สถานีสำโรง Interchange
สถานีปลายทาง เชื่อมต่อกับสายสีเขียว สามารถเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่ BTS สายสุขุมวิท ตัวสถานีที่เชื่อมต่อกันถือว่าเดินไม่ไกลนะ อย่างน้อยก็ไม่ไกลเท่าสถานีพหลโยธิน ไปสถานีห้าแยกลาดพร้าว 5555
ค่าบริการ
ตอนนี้เรายังนั่งฟรีอยู่นะครับ เพราะอยู่ในขั้นตอนช่วงทดลองการใช้บริการ (ฟรีถึงแค่วันที่ 30 มิถุนายน 2566)
สามารถใช้บัตรแรบบิทในการเดินทาง ตอนนี้ยังไม่หักค่าโดยสาร
ส่วนค่าโดยสารตอนนี้เห็นว่าน่าจะประกาศอยู่ที่ อัตราค่าโดยสาร 15-45 บาท
จากการที่ได้ทดลองนั่ง มองวิวทิวทัศน์ตามสถานีต่างๆ จากมุมบน พอมองเห็น 'ที่ดิน' ว่างๆ เพียบ
การมาของรถไฟฟ้า คงทำให้พื้นที่ทำเลตลอดเส้นทางสายสีเหลืองนี้คึกคักมากยิ่งขึ้น อนาคตรอลุ้นเลยครับคงมีโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงให้ได้ไปส่องและรีวิวกันอีกเยอะแน่ๆ โดยเฉพาะสถานี Interchange ทั้ง 4 สถานี
น้องเก๊กฮวยเสร็จแล้ว ตอนนี้รอน้องนมเย็น น้องชาไทย เสร็จแล้วคงคึกคักแน่นอนฮะ ผมนี้รอรีวิวเลย 555
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ