ด้วยภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมา ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าต้องปรับทัพกันวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะเจ้าเล็กที่แทบจะหยุดหรือยอมโดนเทคโอเวอร์จากเจ้าใหญ่ไปเลย ขณะที่เจ้าใหญ่หลายรายก็ “ลด” การเปิดโครงการใหม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
แต่ไม่ใช่กับพี่ใหญ่แห่งวงการอย่าง “พฤกษา”
ปี 2559 ที่ผ่านมา พฤกษา เปิดโครงการใหม่จำนวน 69 โครงการ มูลค่า 59,700 ล้านบาท
ในปี 2560 นี้ พฤกษา ที่กลายร่างมาเป็น “พฤกษาโฮลดิ้ง” จัดเต็มด้วยการเปิด 72 โครงการ มูลค่า 60,800 ล้านบาท
ดูเหมือนว่าอาจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เทียบกับในยุคปัจจุบันที่เกือบทุกเจ้า “ถอยตั้งหลัก” ก็ต้องบอกว่า พฤกษาทำตัวเป็น “พี่ใหญ่” จริงๆ ครับ ที่ยัง “เดินหน้า” ต่อไป
แน่นอนว่าโครงการของพฤกษามีหลากหลายทั้ง “แนวราบ” และ “แนวดิ่ง” แถมปีนี้ยังมีโปรดักส์อื่นๆ อีก เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล เป็นต้น เลยทำให้โครงการที่ออกมาขายมีการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายสินค้า
อย่างไรก็ตาม เพจเราก็คง “ตามติด” ชีวิตคอนโดกันเป็นหลักล่ะครับ
ตามข่าวก็คือ พฤกษา โดดลงมาเล่น “ตลาดพรีเมี่ยม” ให้มากขึ้น
คุณประเสริฐ กล่าวไว้ว่า มูลค่าตลาดพรีเมี่ยมเนี่ยเป็น “แสนล้าน” ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และก่อนหน้านี้พฤกษาเองก็ยังไม่ได้เน้นมาที่กลุ่มนี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นปีนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะลงมาขอ “แบ่งเค้ก” ก้อนโตชิ้นนี้บ้าง
เราคงได้ยินกันมาบ้างแล้วกับ “เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อThe Reserve Thonglor” ที่อยู่ใน “เรียลทองหล่อ” ซะด้วย ห้องถูกสุดเริ่มต้น 10 ล้าน!!!! พฤกษาเอาจริงครับ!!!
อย่างไรก็ตาม แบรนด์คอนโดที่ดูเหมือนพฤกษาจะใช้บ่อยที่สุดในหลายปีนี้ก็คือ “The Tree” ก็ยังถูกใช้เป็นหลักเหมือนเดิมนะครับ
ปลายปี-ต้นปีที่ผ่านมา ก็เห็นไป 2 โครงการ คือ เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 (The Tree Sukhumvit 64) และ เดอะ ทรี สุขุมวิท อ่อนนุชv(The Tree Onnut)
โดยเฉพาะ เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 ต้องถือว่าทำออกมาได้ดูหรูขึ้นกว่า เดอะ ทรี ตัวที่ผ่านมานะครับ
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤกษายังคงเน้นกับแบรนด์ “The Tree (เดอะ ทรี)” นี้เป็นหลักในโปรดักส์คอนโดมิเนียม และยังปรับ “ลุค” ให้ดูแพงขึ้นอีกด้วย และในเร็ววันนี้จะมีโครงการ The Tree ตัวล่าสุดมาเปิดตัวกันครับ
THE TREE SUKHUMVIT 71 – EKKAMAI (เดอะ ทรี สุขุมวิท 71)
อ่านชื่อแล้วมาเดาทำเลกัน
แน่นอนว่าตัวเลข “71” หมายถึง สุขุมวิท 71 และ เอกมัยก็คือเอกมัย (จะบอกทำไม ฮ่าฮ่าฮ่า)
โครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์) แต่เกือบสุดซอยอยู่แล้ว ถ้าวิ่งมาจากถนนสุขุมวิทโครงการจะอยู่ติดถนนหลักซอย 71 ทางซ้ายมือก่อนถึงแยกที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรีนิดเดียว
ส่วนคำว่า “เอกมัย” มาอย่างไร?
ซอยสุขุมวิท 71 สามารถทะลุไปยังซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ได้หลายซอย แต่ที่เป็นซอยหลักและเป็นที่นิยมก็คือ ซอยปรีดีฯ 31- ซอยเอกมัย 12 ซึ่งสามารถทะลุไปยังซอยทองหล่อ 10 ได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ THE TREE SUKHUMVIT 71 – EKKAMAI (เดอะ ทรี สุขุมวิท 71 –เอกมัย)
นั่นเอง
บางคนอาจบอกว่าอยู่ซอยสุขุมวิท 71 ก็จริง แต่เกือบจะสุดถนนแล้ว แต่ในความคิดผม ถ้าไม่อยู่ต้นซอยไปเลย ซึ่งใกล้ รถไฟฟ้า (BTS) สถานีพระโขนง ก็ให้มาอยู่สุดซอยเลยจะดีกว่าครับ
เพราะอะไรน่ะหรือ?
เพราะท้ายซอยมี Airport Link สถานีรามคำแหง ไงละครับ
เดอะ ทรี สุขุมวิท 71 –เอกมัย มีระยะห่างจาก Airport Link รามคำแหงประมาณ 300 เมตร ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย และถ้าเรานั่ง Airport Link จากสถานีรามคำแหงไปอีก 1 สถานีก็จะเป็นสถานีมักกะสัน ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับ รถไฟใต้ดิน (MRT) สถานีเพชรบุรี ซึ่งต่อไปอีก 1 สถานีก็คือ สถานีอโศกแล้วล่ะครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิ่งย้อนกลับไปต้นซอยสุขุมวิท 71 เพื่อใช้ รถไฟฟ้า (BTS) สถานีพระโขนงเลย ในซอยสุขุมวิท 71 เองก็มีรถสาธารณะเยอะแยะ ทั้ง มอเตอร์ไซค์, รถกะป้อ และรถเมล์!!!
ในซอยสุขุมวิท 71 มีรถเมล์ด้วยนะเออ ฮ่าฮ่าฮ่า
ซอยสุขุมวิท 71 เป็นซอยที่คึกคักมาก เป็นชุมชนขนาดใหญ่ การคมนาคมในซอยจึงมีหลากหลายทางเลือก
บ้านอยู่อาศัยก็เยอะ ออฟฟิศก็มากมี แถมยังมีคอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดย่อมเปิดบ้างประปรายด้วย (โดยส่วนตัวเห็นว่ายังไม่ค่อยพอนะครับ แต่แว่วว่าในอนาคตอันใกล้จะมีมาเปิดเพิ่มอีกนะ)
อีกส่วนที่ทางโครงการพยายามจะเอามาเป็นจุดขายก็คือคำว่า “เอกมัย”
อย่างที่บอกว่าซอยสุขุมวิท 71 สามารถทะลุไปถึงเอกมัยได้ผ่านซอยเอกมัย 12 (ตอนนี้ขยายถนนแล้วด้วย ยิ่งวิ่งสบายใหญ่) และยังทะลุผ่านไปตรงๆ ถึงซอยทองหล่อ 10 ได้อีกด้วย
ซึ่งทั้ง 2 ซอยนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในซอยหลักของเอกมัย และทองหล่อเหมือนกัน เพราะทะลุตัดใจกลางทั้ง 2 ซอยที่ว่ามานี้เลย
ซึ่งต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ Lifestyle ของคนทำงานกลางเมืองก็ชอบที่จะมาสุมรวมกันอยู่ใน 2 ซอยนี้กันไปหมด ทั้งร้านอาหารเก๋ๆ ร้านค้าชิคๆ อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์มาก
ระยะทางจากโครงการไปยังเอกมัยหรือทองหล่อประมาณ 2-3 กม. ถามว่าไกลไหม?
ก็ต้องบอกว่าไม่ใกล้หรอกถ้าจะเดิน แต่ถ้าขับรถหรือใช้รถสาธารณะก็ใช้เวลาไม่นานนัก ซึ่งสำหรับโครงการ เดอะ ทรี สุขุมวิท 71 –เอกมัย มีที่จอดรถ 45% ก็ต้องบอกว่าคนที่อยู่ในโครงการน่าจะใช้รถสาธารณะกันเป็นส่วนใหญ่
สิ่งสำคัญคงอยู่ที่ว่า “ราคา” และ “โปรดักส์” ที่ให้มานั้นสมเหตุสมผลกับระยะห่างนี้ไหม
เพราะอย่างที่รู้กัน ถ้าใกล้เอกมัย และทองหล่อมากกว่านี้ ราคามันก็จะ “หนาวสั่น” พอสมควร อิอิอิ
เอาเป็นว่าสำหรับ “ทำเล” ผมว่าไม่เลวเลย สามารถอิงกับรถไฟฟ้า Airport Link ได้อย่างไม่เคอะเขิน เข้าสู่เอกมัย-ทองหล่อ ไม่ยากนัก และอาหารการกินอุดมสมบูรณ์
ทีนี้มาว่ากันที่เรื่องโปรดักส์กันต่อครับ
เดอะ ทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย เป็นโครงการไฮไรซ์ 33 ชั้น จำนวน 883 ยูนิต ขนาดห้องคร่าวๆ คือ 24, 26 30, 47 และ 56 ตร.ม. ซึ่งจุดขายของ เดอะ ทรี สุขุมวิท 71 –เอกมัย ตัวนี้ ก็ต้องไปดูที่คำโปรยครับ
“สระว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติจรดฟ้า”
แบบนี้ก็คือ สระว่ายน้ำอยู่บนดาดฟ้าแน่นอนครับ ซึ่งจากรูป Perspective ที่ออกมา ก็เน้นไปที่ส่วนดาดฟ้าโดยเฉพาะเลย แถมสระว่ายน้ำยังเป็นแบบ Freeform ด้วย คือไม่ใช่มาเหลี่ยมๆ แบบปกติ แต่ทำแบบชายหาดกันเลยทีเดียว ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ “Natural Rooftop Creation” ด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมีรูปของ Observation Deck@33 ออกมาด้วย ซึ่งเป็นจุดมุมมองเพื่อเทควิว 720 องศา!!! รอบเมือง (นับองศากันยังไงนะ ฮ่าฮ่าฮ่า) เอาเป็นว่ารอบทิศทางกันเลย
แค่การเอาสระว่ายน้ำไปอยู่บนดาดฟ้าก็ถือว่าเป็นคอนโดที่ “มีระดับ” แล้ว นี่ยังใส่ลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไปอีก
จุดนี้เป็นการยกระดับแบรนด์ เดอะ ทรี ได้ดีทีเดียว
ไหนๆ แล้ว ก็ลองมาไล่ๆ ดู Facility ของโครงการกันหน่อย ที่ว่ากันตามคอนเซปต์ “ครบครันตั้งแต่พื้น......จรดฟ้า”
เริ่มกันตั้งแต่บนพื้น - Natural on the Ground ธรรมชาติบนพื้นดิน
• Pine Tunnel Lobby
• Recreation Room
• On Ground Backyard
• 3rd Place Garden
ชั้น 7 ก็มีนะเออ - Natural Loft Balance ชั้น 7 ธรรมชาติที่บาลานซ์การใช้ชีวิต
• Life Loft Garden
• Co- Working Space
และชั้นดาดฟ้าที่เป็นไฮไลท์ - Natural Rooftop Facilities ธรรมชาติสำหรับการพักผ่อน
• Sky Garden
• Sky Tree House
• Sky Deck
• Sky Lounge
• Sky Gym & Yoga Room
• Sunken Garden
• Observation Deck
นั่งลอกมายังเหนื่อย ฮ่าฮ่าฮ่า
ถือว่าเป็นโครงการที่ให้ส่วนกลางมาได้หลากหลายมากทีเดียวครับ
ตามข้อมูลที่ได้มา เดอะ ทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย ใช้ทีม “ที่ปรึกษาการออกแบบ” จาก P&T Architects & Engineers Ltd หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม Palmer & Turner เป็นทีมออกแบบชั้นนำระดับโลก โดยมีผลงานออกแบบตึกที่เป็น Landmark ต่างๆ ทั้งในเมืองชั้นนำอย่างฮ่องกงและเซี้ยงไฮ้ เช่น Standard Chartered Bank Building (Hong Kong) ปีค.ศ. 1990 เป็นต้น
สำหรับวัสดุที่ใช้ในโครงการน่าจะใกล้เคียงกับ เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 และ เดอะ ทรี อ่อนนุช ตัวล่าสุดนะ
สำหรับที่จอดรถ 37% ก็ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่น้อย ไม่มาก แต่อย่างที่บอกว่าบริการรถสาธารณะเยอะอยู่แล้วในซอยนี้
สรุปก็คือโปรดักส์ที่ออกมาถือว่าแจ่มทีเดียว โดยเฉพาะส่วนกลาง เรียกได้ว่ายกระดับแบรนด์ เดอะ ทรี และน่าจะแตกต่างจากคอนโดในละแวกนั้นมากทีเดียว
มาเรื่องที่สำคัญที่สุดครับ
ราคาโปรยคือ 1.69 ล้านบาท เอาห้อง 24 ตร.ม. มาคิดจะตกอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม ผมขอเดาว่าราคาเฉลี่ยน่าจะอยู่แถว 8x,xxx บาท/ตร.ม.ครับ ทำให้คิดได้ว่าราคาทั่วไปของห้อง 24 ตร.ม.น่าอยู่แถวล้านปลาย ไม่เกิน 2 ล้าน
ราคานี้ขายคนอาศัยอยู่จริงสบายเลยครับ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน กู้สบายๆ เลย
ส่วนห้องที่ใหญ่ขึ้นและแพงขึ้นก็ว่ากันตามกำลังทรัพย์
ลองมาดูเรื่องการปล่อยเช่ากันบ้าง ผมขอให้ราคา 2 ล้านเป็นแนวต้าน กับห้อง 24 ตร.ม.ต้องได้ค่าเช่า 10,000 บาท/ตร.ม.เพื่อจะได้ยิลด์ 6% ผมว่าราคาค่าเช่าที่น่าจะได้จริงๆ น่าจะอยู่แถว “ต่ำหมื่น” คือ 8-9 พันบาท/เดือน เป็นตัวเลขจิตวิทยาว่าไม่ถึงหมื่นนะ
ซึ่งถ้าเทียบกับราคาล้านปลาย ก็น่าจะได้ยิลด์ประมาณ 5% ซึ่งถือว่าใช้ได้แล้วกับยุคนี้
ราคาค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดเก่าในย่านนี้ไม่สูงมากครับ แต่ก็เป็นรูปแบบเก่า ซึ่งก็สะท้อนกับราคา แต่เดี๋ยวนี้ตลาดเช่าคอนโดใหม่มีมากขึ้นเยอะ แนวรับอยู่ประมาณ 5-6 พัน ดังนั้นถ้าโปรดักส์แบบ The Tree เข้ามา ต้องเรียกได้สูงกว่าอย่างแน่นอน แนวรับ 8-9 พันบาท/เดือน แล้วค่อยไล่ราคาขึ้นไปได้เกินหมื่น ขึ้นกับการแต่งห้องและขนาดห้องครับ
ส่วนเรื่องหาคนเช่านั้น ไม่น่ายากเลย โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้เส้นสุขุมวิทหลักค่าเช่าทะลุไปหลายหมื่นแล้ว คนต่างชาติที่งบไม่สูงมากก็ไหลมาอยู่ในจุดที่ค่าเช่ายังไม่สูงมากหลายจุด
สำหรับราคาทรัพย์สินในระยะยาว เรื่องขาดทุนไม่น่าจะมี ทำเลแบบนี้มีศักยภาพในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่กำไรอาจจะไม่หวือหวา ไล่เป็นสเต็ปตามเวลา เหมาะกับคนที่เก็บไว้ปล่อยเช่าหลายๆ ปี แล้วค่อยขายทำกำไร
สรุปตามสไตล์คอนโดติดดอย
สำหรับการอยู่เอง เหมาะมากครับสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานมีงบจำกัด ทำเลอยู่ใจกลางสุขุมวิท ระยะจาก Airport Link ไม่ไกลเกินไปนัก 300 เมตร พอเดินได้ เชื่อมต่อเข้าเมืองไม่กี่สถานี และถ้าจะใช้ รถไฟฟ้า(BTS) ก็มีรถสาธารณะให้เลือกใช้อยู่มากมาย สามารถแวะไปเสพ Lifestyle เอกมัย-ทองหล่อ ได้ไม่ไกล ส่วนกลางต่างๆ ในโครงการถือว่ามีความหลากหลายและน่าใช้ มีความ “ไฮ” และแตกต่างกว่าคอนโดในละแวกใกล้เคียงอย่างเห็นได้ชัด ถือว่าน่าอยู่อาศัยมาก
สำหรับการเล่นสั้น ในช่วงระยะเวลานี้ โดยภาพรวมของตลาดแล้ว ผมยังไม่แนะนำให้เล่นสั้นเท่าไหร่ครับ
สำหรับการปล่อยเช่า สำหรับห้องขนาดเล็ก เรทค่าเช่าต่ำหมื่น ประมาณ 8,000-9,000 บาท/เดือน เป็นแนวรับ หาคนเช่าได้ไม่ยาก ผลตอบแทนน่าจะประมาณ 5% ครับ
สำหรับการเล่นระยะยาว เก็บไว้จะมูลค่าเพิ่มขึ้นแบบไม่หวือหวา ด้วยทำเลที่เป็นสุขุมวิท เชื่อมต่อได้หลากหลาย มีรถไฟฟ้าในระยะ 350 เมตร ไม่ขาดทุนแน่นอนครับ
เดอะ ทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย THE TREE SUKHUMVIT 71 – EKKAMAI เป็นคอนโดที่น่าอยู่ครับ ใครที่มีงบจำกัด อยากอยู่ใจกลางเมือง อาจจะเขยิบออกมาจากจุดใจกลางที่ราคาแพงมากสักหน่อย แต่ส่วนกลางและวัสดุที่ใช้ถือว่าคุณภาพสูง ถ้าเก็บไว้ปล่อยเช่าก็น่าจะได้ยิลด์ 5% หาคนเช่าไม่ยาก เก็บเป็นทรัพย์สินระยะยาวได้ไม่ขาดทุน กำไรอาจจะไม่หวือหวา แต่ไปได้เรื่อยๆ แต่แนะนำว่าอย่าเพิ่งเล่นสั้นช่วงนี้ครับ
นึกถึงลงทุนคอนโด นึกถึงคอนโดติดดอย ^0^