แสนสิริ ปรับกลยุทธ์การขายที่อยู่อาศัยเมืองท่องเที่ยว ขยายกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ประเดิมเมืองเชียงใหม่ โครงการ”บุราสิริ” ขายแบบเช่าซื้อ 90 ปี เผยลูกค้า “จีน-ฮ่องกง-สิงคโปร์” แห่ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 แย้ม “เศรษฐสิริ สันทราย” ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน ดันยอดขายพุ่งกว่า 85%

 

        นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

 

        ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยสูงขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติอย่าง ชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง ล่าสุดบริษัทได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติใน 2 โครงการบ้านเดี่ยวอย่าง เศรษฐสิริ สันทรายและบุราสิริ สันผีเสื้อ ที่ทั้ง 2 โครงการสามารถสร้างยอดขายรวมได้กว่า 15 หลัง กวาดยอดขายรวม 100 ล้านบาท

 

        “จังหวัดเชียงใหม่ได้รับความสนใจมากในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ดีเหมาะแก่การใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ โดยรูปแบบการขายในโครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ ที่มีราคาขายเริ่มต้น 5.09 ล้านบาท บริษัทขายแบบ Leasehold ซึ่งเป็นการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ได้กรรมสิทธิ์การอยู่อาศัยระยะเวลา 30 ปี+30 ปี+30 ปี หากครบกำหนดสัญญาก็จะมีการเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการขายในรูปแบบนี้ ผู้ซื้อจะสามารถนำมาปล่อยเช่าได้ โดยมีอัตราผลตอบแทนค่าเช่าสูงถึง 6-8% เหตุผลสำคัญที่ชาวต่างชาติเลือกซื้อโครงการบ้านเดี่ยวที่เชียงใหม่ของบริษัทท เนื่องด้วยแบรนด์เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี”นายเมธา กล่าว

 

         ด้านแหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึง การขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในรูปแบบเช่าซื้อว่า ยังไม่เป็นที่นิยมในวงกว้าง ซึ่งรูปแบบการขายดังกล่าวจะพบมากในจังหวัดท่องเที่ยวที่กลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ และต้องการมีที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นของตนเอง แต่ด้วยกฎหมายของประเทศไทยไม่อนุญาตให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยขายพร้อมที่ดิน ไม่เหมือนกับคอนโดมิเนียมที่ผู้ซื้อชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ตามกฎหมาย ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการจะขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ หรือต้องการกระตุ้นยอดขายก็อาจใช้วิธีการดังกล่าวได้

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ