“ออลล์ อินสไปร์” บริษัทอสังหาฯที่เน้นทำคอนโดฯโลว์ไรส์โซนลาซาล เปิดเกมรุกตลาดอสังหาฯ เป้าเปิด 5-6 โครงการ มูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท โดยขยับเข้าใกล้เมือง รัศมีไม่เกิน 2 กม.จากรถไฟฟ้า นำร่องเปิดโครงการทาวน์โฮม 1-2 โครงการ มั่นใจดูดซับดี ระบุเป้า Pre-Sale ที่ 2,000 ล้านบาท

 

        นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางการลงทุนของบริษัทฯ ในปี 2560 ว่า จะมีการลงทุนโครงการใหม่ประมาณ 5-6 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท ซึ่งจะไปเป็นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยแบ่งเป็นการลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ จำนวน 3-4 โครงการ คิดเป็น 70% ของโครงการที่เปิดในปีนี้ ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และที่เหลืออีก 30% จะเป็นการขยายตลาดสู่โครงการแนวราบ ประเภททาวน์โฮม จำนวน 1-2 โครงการ ขนาดที่ดิน 8-10 ไร่ ระดับราคา 3-8 ล้านบาท มูลค่าต่อโครงการกว่า 400 ล้านบาท และอาจจะเปิดโครงการเพิ่มขึ้นหากสามารถจัดหาแปลงที่ดินเข้ามา

 

        “เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราต้องบริหารพอร์ตโครงการ โดยการเปิดโครงการแนวราบ จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการด้านของรายได้ โดยมองว่าตลาดทาวน์โฮม มีการดูดซับที่ดี ซึ่งสเปรซของทาวน์โฮมจะมีพื้นที่กว้าง สูง 3 ชั้น ซึ่งจะคุ้มค่ากว่าอยู่คอนโดมิเนียม ทั้งนี้ โครงการที่จะเปิดในปีนี้จะขยับเข้าใกล้เมือง เกาะแนวรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วรัศมีไม่เกิน 2 กิโลเมตรจากสถานี โดยจะให้น้ำหนักไปที่เส้นรถไฟฟ้า MRT สีเขียว และสีน้ำเงิน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเปรียบเสมือนกระดูกสันหลัง มีคนโดยสารเยอะ ผ่านย่านเศรษฐกิจ และแหล่งงานของสำนักงาน ”

 

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรก ทางบริษัทฯ จะเน้นเรื่องการแผนทำประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้าให้มากขึ้น โดยฐานลูกค้าของโครงการจะเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนใช้ชีวิตอิสระ ชอบความทันสมัยที่ไม่ตามติดคนอื่น คือ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีบุคลิกที่ชัดเจนในการใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งที่บริษัมเติมเต็มในสินค้าจะมีเรื่องของฟังก์ชั่น ดีไซน์ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งการมาออกบูทที่งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 36 จะเป็นโอกาสในการสื่อสารให้กับลูกค้าเน้นเรื่องแบรนด์เป็นหลัก

 

        สำหรับตัวเลขเป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 60 เป้า Pre-Sale ที่ 2,000 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 59 ที่มียอด Pre-Sale 1,000 ล้านบาท ตัวเลขรับรู้รายได้ 400 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีสินค้าพร้อมโอน 800-900 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาท ไม่เกิน 3 ล้านบาท

 

        “เรามองว่า เศรษฐกิจปีนี้ ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเรื่องของหนี้ต่างๆ ของผู้บริโภคปรับลดลง หนี้รถคันแรกผ่อนคลายลง ส่งผลให้ความสามารถในการซื้อดีขึ้น ซึ่งในส่วนยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทเฉลี่ยต่ำกว่า 10%”

 

ที่มา : manager.co.th