บทสรุปหลังเจรจากันมาร่วม 20 ครั้ง จะรวมสัมปทานเดิม (หัวลำโพง-บางซื่อ) ระยะทาง 20 กม. สิ้นสุดปี 2572 กับส่วนต่อขยาย 27 กม. เป็นสัมปทานเดียวกัน และสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2592 เพื่อให้การเดินรถมีความต่อเนื่อง (Through Operation) เป็นโครงข่ายเดียวกันด้วยผู้เดินรถรายเดียวตลอดระยะเวลา 30 ปี
เหตุผลที่ต้องรวบการเดินรถเป็นสัมปทานเดียวกัน เนื่องจากการดำเนินโครงการส่วนต่อขยายต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่มีรายได้น้อย เพราะ รฟม.จะจัดเก็บค่าโดยสารสายสีน้ำเงินเป็นโครงสร้างอัตราเดียวตลอดสายไม่เกิน 42 บาท มีค่าแรกเข้าครั้งเดียว
เพื่อให้ค่าโดยสารมีราคาถูกเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้โครงการมีผลตอบแทนการลงทุนต่ำอยู่ที่ 9.75% แต่เอกชนก็ใจถึงไม่ให้รัฐชดเชยรายได้แต่อย่างใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ขอรัฐชดเชยให้ 10 ปีแรกของการให้บริการ หากผู้โดยสารไม่ถึงเป้า
สำหรับผลการเจรจาที่ยุติ จะคิดผลตอบแทนแยกเป็น 2 ส่วน แต่ยังคงผลประโยชน์ตามสีน้ำเงินเดิม คือ ตามสัญญาสัมปทานเดิมถึงปี 2572 รัฐจะได้ผลตอบแทนคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 28,577 ล้านบาท
ขณะที่ส่วนต่อขยายจะแบ่งตามผลตอบแทนโครงการหาก IRR อยู่ที่ 9.75-11% ส่วนแบ่งรายได้ รฟม.กับ BEM อยู่ที่ 50 : 50 มากกว่า 11-15% อยู่ที่ 60 : 40 มากกว่า 15% อยู่ที่ 75 : 25
โดยมีการคาดการณ์กันว่า หากผู้โดยสารมาตามนัด รฟม.จะได้ส่วนแบ่งรายได้ในปีที่ 20 แต่หากพลาดเป้า คาดว่าจะเป็นปีที่ 29-30
จากหนทางยาวไกลกว่ารัฐจะได้รับผลตอบแทน ทำให้ "ครม.-คณะรัฐมนตรี" มีคำสั่งปิดผนึกถึง รฟม.จ้างบุคคลที่ 3 มาตรวจสอบรายรับรายจ่ายของ BEM อย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดการสอดไส้ในการแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างรัฐ-เอกชน
เพราะตัวเลขที่ออกมา มาจากการพยากรณ์ความน่าจะเป็น ที่ทำเป็นโมเดลขึ้นมาเจรจาระหว่างรัฐ-เอกชน ไม่มีใครทำนายได้ล่วงหน้าเมื่อถึงปีเปิดบริการในปี 2563 คนจะมาใช้บริการมากน้อยแค่ไหน
แม้ว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะวิ่งเชื่อมกันเป็นวงกลมระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯกับฝั่งธนบุรีแต่BEMมีบทเรียนสายสีน้ำเงินเดิมเปิดมากว่า 13 ปี ผู้โดยสารยังเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8 แสนเที่ยวคนต่อวัน ต่ำจากเป้า 4 แสนเที่ยวคนต่อวัน
ขณะที่สายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) ที่ รฟม.จ้าง BEM เดินรถ คนใช้บริการ 3 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน ต่ำจากเป้าเดิม 1.2 แสนเที่ยวคนต่อวัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่เชื่อมกับสีน้ำเงินเดิม เลยทำให้คนเมิน ซึ่ง รฟม.ต้องมาวัดดวงอีกครั้งหลังเชื่อมกันแล้ว ส.ค.นี้ ยอดคนใช้จะพุ่งสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าน่าจะไม่เกิน 4 หมื่นคนต่อวัน
เช่นเดียวกับ BEM ก็ต้องวัดดวงส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินจะมาดึงคนใช้บริการได้ตามเป้า 8 แสนเที่ยวคนต่อวัน อย่างที่หวังได้หรือไม่
เพราะสายนี้ BEM รับความเสี่ยงไปเต็ม ๆ ตลอด 30 ปี โดยมีรายได้จากค่าโดยสารและพัฒนาพื้นที่สถานีเป็นผลตอบแทนกลับคืน
หากผู้โดยสารมาตามนัดแบบถล่มทลายรัฐก็ได้ส่วนแบ่งรายได้เร็วขึ้นแต่ถ้าช้าก็ร้องเพลงรออีก20-30 ปี
ที่มา : prachachat.net
Tag :
ตอนที่ ‘The Line วงศ์สว่าง’ ขายหมด ผมยังคิดอยู่เลยว่า ‘แสนสิริ’ น่าทำโครงใหม่เส้นสีม่วงเพิ่มอีก หลายคนไม่ชอบรถไฟฟ้าเส้นนี้ แต่ในฐานะ ‘ชาวนนทบุเรี่ยน‘ ผมยังเชียร์คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีที่ถัดจากสถานี ‘เตาปูน’ ไปสัก 3-4 สถานีอยู่นะ
นี่คือคอนโดใหม่แกะกล่อง ที่อยู่ใกล้กับ "บางหว้า" สถานีรถไฟฟ้า interchange ของ 2 สายที่คนใช้งานเยอะที่สุด อย่างสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน
เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“
อ้าว!! โกวศุ สอยไปซะแล้ววว ที่ดินข้างๆ ซอยตากสิน 14 ที่ก่อนหน้านี้ ตรงนี้เป็นที่ดินที่ 'แสนสิริ' จะสร้างเป็นโครงการ 'NYX by Sansiri' ก่อนจะยุบโครงการภายหลัง
นานๆ ทีจะมีคอนโดท่าพระโผล่มา เพราะจะว่าไปดีเวลลอปเปอร์มักจะขยับไปตั้งโครงการกันทางโซน สถานีจรัญ-บางพลัด กันมากกว่า
ไม่ทำแล้วมิกซ์ยูส ทำคอนโดดีกว่า เพราะทำเลมันสวยด้วยความชิดติดริมถนนพหลฯ แบบนี้
ทำไมเพิ่งเคยได้ดูรายการนี้นะ! มันดีจริงๆ นะ เพราะน้องเป้น่ารักมั่กๆ เอ้ย! เพราะรายการเค้ามีประโยชน์มั่กๆ ต่างหาก ‘AP The Space Maker’
แวะไปจิบกาแฟพร้อมเลือกหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ "ร้านหนังสือริมขอบฟ้า" Book cafe ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้!
ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งได้เห็นหน้า คุณเบลล่า ราณี ที่มาเปิดร้านคาเฟ่ "Jo’s 365" แสนอร่อย ที่ตั้งอยู่ใน Sales Gallery ของ "Reference Sathorn-Wongwianyai" ได้ไม่ทันไรเลย
คอนโดใจกลางอโศก 175,000 บ./ตร.ม.?! ไม่อยากเชื่อสายตา จนต้องอ่านซ้ำ 3 รอบ 555 ราคาอย่างกับย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน
เอาจริงกดดันเหมือนกันนะ สำหรับโครงการที่สร้างมาตรฐานไว้สูงอยู่แล้ว เมื่อออกมาบอกว่าจะปรับใหม่นี่ก็ย่อมเป็นที่น่าจับตา
ล่าสุดประเทศบราซิลเตรียมสร้าง 'หอคอยเซนนา' (Senna tower) ตึกระฟ้าที่จะมาเป็นหอคอยที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในโลก (ไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุดในโลกนะ)