แว่วมาสักพัก ปักป้ายมาก็นาน วันก่อนได้ไปส่องทำเลพร้อมห้องตัวอย่าง "ASPIRE Vibha-Victory" บอกเลยว่าสุดจัด แปลนห้องนี่อย่างเจ๋งเลย!
เล่าก่อนว่าโครงการนี้เป็น 1 ใน 2 โครงการส่งท้ายปีจากค่าย AP เค้านะ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ทาง AP เค้าทำเองไม่ได้ร่วมทุน เลยใส่ลูกเล่นความแปลกใหม่เข้ามาแบบจัดเต็ม
ก่อนที่ผมจะไปถึงตัวโครงการ ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยชอบการเส้นทางที่ผมไปเท่าไหร่ ต้องผ่านทางแคบ ๆ ใต้ทางด่วนไป ดูแล้วไม่ค่อยเป็นทัศนียภาพที่ดี
แต่พอมาถึงตรงหน้าโครงการแล้วผิดที่ผมเองเนี่ยแหละ ทางข้างหน้าเค้ากว้างใหญ่ไพศาล วิ่งมาทาง ถ.อโศก-ดินแดง นี่คือจบ สะดวกสบายมาก 55555
แต่ก็ต้องดูรอบด้านแหละเนอะ แม้พิกัดตรงนี้จะมีถนนผ่านหลากหลายเส้น แต่เส้นที่ผ่านหน้าโครงการแบบจัง ๆ ก็จะมีแค่เส้นเดียว เส้นอื่นก็ต้องยูเทิร์นกับมาเข้าเส้นหลักอีกที
ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะโดยรวมผมยกให้เป็นทำเลที่ปังมาก ชุมชนรอบ ๆ ไม่อึดอัดจอแจ แถมเดินทางเข้าออกเมืองสะดวกสบายหมดเลย ก็ขึ้นชื่ออนุสาวรีย์อ่ะเนอะ 555
โครงการเค้าเคาะราคามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท หรือประมาณ 89,000 บาท/ตร.ม. เปิดตัว 11-12 พ.ย. ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อย
เรื่องราคาเป็นอีกจุดขายที่น่าสนใจ ทำเลโซนนี้เป็นแหล่งรวมศูนย์การแพทย์เลย เน้นเป้าหมายเป็นบรรดาคุณหมอ คุณพยาบาลได้แน่ ๆ แต่ราคาก็น่ารักพอที่จะปล่อยเช่าได้คล่องด้วย
"ASPIRE Vibha-Victory" เป็นคอนโด High-Rise สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 2-2-70.7 ไร่ จำนวนห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 593 ยูนิต
ความน่าสนใจก็คือโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ทาง AP เค้าเปิด Room Layout ใหม่หมดถึง 18 รูปแบบ ถ้าสังเกตดูคือแปลนห้องที่นี่จะไม่เคยเห็นที่ไหนในโครงการของ AP เลยนะ
แบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือห้องชุดแบบ Simplex ห้องแบบชั้นเดียว 11 แบบ มีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 2 Bedroom 2 Bath ขนาดเริ่มต้น 26.50-60.00 ตร.ม.
และห้องชุดแบบ Vertiplex ที่เป็นห้อง 2 ชั้นมี Double Volume (เพดานสูง 4.45 ม.) อีก 7 แบบ ขนาดเริ่มต้น 26.00-46.00 ตร.ม. เรียกได้ว่าเยอะมาก!!!
และนอกจากแบบห้องที่เยอะแล้ว พื้นที่ส่วนกลางที่นี่เค้าก็เยอะไม่แพ้กับ โดยเน้นออกแบบมาให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนที่ต้องการพพักผ่อนอย่างจริงจัง
จะว่าไปก็ตรงตามคอนเซปต์ "Recharge as you Design" ของเค้านั่นแหละ อะไรที่ทำให้คุณชาร์จพลังตัวเองได้ ที่นี่เค้าก็อัดแน่นมาให้ครบ
ผมชอบสุดก็ตรงส่วนกลางที่เค้ารวมกับไว้บนดาดฟ้า เหมือยยกเอาคลับเฮาส์ 3 ชั้นมาไว้บนยอดอาคารเป็น Triple Facility ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน
ไม่ว่าจะเป็น The Co-Op Society & The Work Hub, The Aspire Common, The Hob & Bounce Yard, The Breathtaking Scenery แถมยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วย
ส่วนอีกไฮไลท์ที่หลายคนน่าจะชอบก็คือ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมตัวอาคารในส่วนของชั้น G พร้อมสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 เมตร รองรับการออกกำลังกาย Outdoor หลากหลายรูปแบบเลย
ตลอดจนพื้นที่สระว่ายน้ำ พร้อมฟังก์ชัน Aqua Exercise และ Jacuzzi เพื่อความผ่อนคลายสูงสุด แค่คิดว่าวันไหนทำงานมาเมื่อย ๆ ได้มาแช่คงฟินน่าดู 555
ส่วน The Healthy Space ในชั้น 8 นี่ก็มาพร้อมอุปกรณ์ฟิตเนสครบครันในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group ใครสายออกกำลังก็ต้องปลื้ม ไม่ต้องไปสมัครยิมข้างนอกเลย
รวมถึง The Sky Lounge และ The Sky Park พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 29 พร้อมวิวเมือง 360 องศาแบบไร้ขีดจำกัดนี่ก็ด้วย ตรงนี้วิวสวยอยู่น้าาา
มาที่เรื่องความอุดมสมบูรณ์กันบ้าง พิกัดโครงการ "ASPIRE Vibha-Victory" ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์มากมายตอบทุกรูปแบบในการใช้ชีวิต ใกล้ทั้ง ตลาดสด, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล, ออฟฟิศ และสถานที่ราชการ
เด่น ๆ ก็จะมีตลาดศรีวนิช, Center One, King Power รางน้ำ, Century The Movie Plaza ส่วนโรงเรียนก็จะมี รร.นิธิปริญญา, รร.ศรีอยุธยาฯ, รร.นานาชาติ RBIS Rasami British รวมไปถึงโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย เช่น รพ.ราชวิถี และ รพ.พระมงกุฎเกล้า เป็นต้น
ที่สำคัญจากโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ฯ ในระยะทาง 1.2 กม.* และ Airport Link ราชปรารถ ในระยะทาง 1.3 กม.* และ ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) ด้วยนะ
ซึ่งเส้นนี้จะวิ่งผ่านถนนราชปรารภ ถนนดินแดง เพื่อไปยังจุดเชื่อมต่อสถานีศูนย์วัฒนธรรม (MRT) บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้เกิดการลงทุน และการพัฒนาต่าง ๆ ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ครับ
ปิดท้ายกันที่ห้องตัวอย่างดีกว่า Sale Gallery จะตั้งอยู่บริเวณพิกัดเดียวกับที่ตั้งของโครงการเลย โดยมีห้องตัวอย่างให้เราชมด้วยกัน 2 แบบ เป็นแบบ Simplex 1 ห้อง และแบบ Vertiplex อีก 1 ห้อง
เริ่มต้นที่ห้อง Simplex แบบ F1 ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้บอกเลยว่า "แปลก" ผมเดินเข้าไปแล้วรู้สึกแปลกตาจริง ๆ เค้าปรับฟังก์ชั่นให้เอื้อต่อคนหลายแบบมากขึ้น
จากแต่ก่อนที่เราเข้าห้องไปแล้วมักจะผ่านส่วนของครัว พื้นที่เตรียมอาหาร ไล่อารมณ์ไปสู่ห้องนั่งเล่น และปรับอารมณ์ขั้นสุดด้วยห้องนอนด้านใน
แต่ที่นี่สลับเอาพื้นที่ห้องนอนมาไว้ตรงกลาง สำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด และแบ่งพื้นที่ด้านในสุดไว้นั่งเล่นพักผ่อนแบบจัดเต็ม 55555
โดยรวมไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ เป็นอีกรูปแบบที่หลายคนน่าจะชอบเลยล่ะ เพราะตัดปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากด้านนอกอาคารไปได้เยอะ เรื่องแสงที่รบกวนการนอนก็ด้วย
ซึ่งภายในห้องแต่ละจุดเค้าก็ยังมีการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอรรถประโยน์เพิ่มขึ้นด้วย ลดพื้นที่บางส่วนเพื่อมาให้ประโยน์อื่น ๆ
อย่างห้องนี้ที่เห็นได้ชัดก็จะเป็นส่วนของ Walk-in Closet ที่กว้างขวางกว่าห้องทั่วไป สามารถตั้งโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ หรือจะทำเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีกตู้ก็ได้
รวมไปถึงพื้นที่ในห้องนั่งเล่นที่เค้ากั้นโซนเป็นห้องทำงานขนาดเล็ก จุดนี้ผมชอบนะสำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ห้องคนเดียว ก็สามารถมีมุมส่วนตัวเป็นของตัวเองได้
ต่อกันที่ห้อง Vertiplex แบบ N2M ขนาด 32.5 ตร.ม. ห้องนี้ผมว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากเลยนะ มันเป็นห้องที่หลายคนต้องวาดฝันอยากมีแน่นอน
ตัวห้องจะเป็นห้องแบบ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นพื้นที่ครัว ห้องน้ำขนาดใหญ่ ห้องนั่งเล่น แต่แฝงด้วยพื้นที่ใช้สอยที่สามารถดัดแปลงเป็นห้องอเนกประสงค์ได้
โดยในห้องตัวอย่างนี้เค้าทำออกมาเป็นห้องทำงาน ผมชอบมากเลยนะห้องนี้ เพราะเวลาที่ผมทำงานผมจะชอบนั่งเข้ามุมอยู่แล้วมันรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยดี
และที่ชอบอีกอย่างคือบริเวณตรงใต้บันใดเค้าก็ออกแบบเป็นห้องเก็บของขนาดเล็ก แก้ pain point ของการอยู่คอนโดแล้วไม่มีที่เก็บของไปได้เลยนะ 555
ส่วนพื้นที่ชั้นบน แน่นอนว่าต้องเป็นห้องนอน ความพิเศษคือมีขนาดใหญ่พอที่จะทำ Walk-in Closet ไว้บนนี้ได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด
แถมความพิเศษใส่ไข่ด้วยการมีห้อง Powder Room หรือห้องน้ำขนาดมินิที่ช่วยลดปัญหาการเข้าห้องน้ำยามกลางดึกให้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ผมว่านี่เป็นปัญหาหลักที่หลายคนไม่ชอบห้องแบบ 2 ชั้นเลยนะ เพราะการเดินขึ้นลงบ่อย ๆ ยามกลางคืนนี่จากง่วง ๆ กลางเป็นตื่นได้เลย 5555
ซึ่งมาถึงปัจจุบันนี้คงไม่มีใครสงสัยแล้วเนอะว่าห้องนอนชั้นสองแบบนี้จะเปลืองแอร์หรือเปล่า ตอบแบบโลกไม่สวยยังไงก็เปลืองว่าห้องปิดทึบแน่นอน แต่ก็สามารถกั้นห้องกันเพิ่มได้นะ
เอาเป็นว่าใครที่สนใจโครงการ "ASPIRE Vibha-Victory" ผมอยากแนะนำให้เข้าไปเยี่ยมชมที่โครงการกันได้เลย จะได้เห็นว่าทำเลเค้าปังจริง
รวมไปถึงลองไปดูว่าห้องแบบใหม่ที่ทาง AP เค้าบรรจงรังสรรค์ออกมานี้มันเจ๋งแค่ไหน ซึ่งอย่าลืมนะว่าเค้ามีให้เลือกทั้งหมดถึง 18 แบบกันเลยทีเดียว
ห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องว่าสวยแล้ว ห้องอีก 16 แบบที่เหลืออาจจะโดนใจ และตรงกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ มากกว่าก็เป็นได้
ส่วนเรื่องราคา Simplex เริ่มต้น 2.79 ล้านบาท หรือประมาณ 89,000 บาท/ตร.ม. VERTIPLEX เริ่มต้น 3.9 ล้านบาท หรือประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม. ครับผม
Tag : AP Thai | ASPIRE Vibha-Victory | AP Condo
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินเล่นที่งาน "สถาปนิก’67" เป็นอีกงานที่ผมประทับใจแล้วอยากให้เพื่อน ๆ ตามไปกันมาก ๆ เลยนะ
ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองตอนผ่านไปโซน ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางบอน บางขุนเทียน นะว่ามองไปทางไหน ทำไมถึงมีแต่โครงการบ้าน 100 ตร.วาขึ้นไปเท่านั้น!
ล่าสุดทางด้าน RPBW ได้ทำการเปิดตัวการออกแบบศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในเมืองโบกา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งความน่าสนใจก็คือเค้าไม่ได้เป็นแค่ศูนย์ศิลปะธรรมดา แต่ที่นี่ยังเป็นเวทีสำหรับแนวคิดใหม่ๆ โอกาสในการโต้ตอบกับ AI อีกด้วย
Art แค่ไหนเรียก Pop? บางเจ้าอาจจะสงสัยแต่ไม่กล้าลอง แต่ที่พูดมาทั้งหมด ‘แสนสิริ’ ทำมาหมดแล้ว!
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ