หลังจากเมื่อหลายวันก่อน ได้ไปร่วมงานที่ทาง Origin ได้เปิดตัว "ณเดชน์" เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมกับเปิดตัว 4 โครงการใหม่
ผมก็รู้สึกสนใจ 1 ในโครงการใหม่ในงานเลย ซึ่งก็คือ "เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์" Kensington Sukhumvit-Thepharak นั่นเอง
ทำไมผมถึงสนใจโครงการนี้นะเหรอครับ?
อดใจรอสักครู่นะ
ผมขอย้อนกลับไปที่เรื่อง "ณเดชน์" ก่อน
ตอนที่ผมได้ข่าวว่า Origin ใช้ "ณเดชน์" เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนทาง Origin จะประกาศว่า "เราพร้อมก้าวขึ้นไปอีกขั้นแล้ว"
ผมว่าทาง Origin เลือกได้ถูกคนแล้วล่ะครับ ภาพลักษณ์ดูหรูหรา มีราคาขึ้นมาทันที
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคิดไปเองไหม แต่ที่แน่ๆ อย่างน้อยในตอนที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่ หุ้น Origin ก็ขึ้นนะครับ 555
เอาล่ะ กลับมาที่เรื่องคอนโด "เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์" Kensington Sukhumvit-Thepharak ต่อ
เหตุที่ผมสะดุดตาโครงการนี้ก่อน
อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นทำเลโซนใหม่ ที่ผมยังไม่ค่อยเห็น Developer เจ้าใหญ่เข้ามาทำการตลาด
ประกอบกับ สถานีสำโรง ก็เปิดให้บริการแล้วด้วย
ลองดูรูปลักษณ์ ราคา ของโครงการแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผมสนใจ
อย่ากระนั้นเลย จะรออะไรละครับ
ผมรีบหาวันว่างไปสำรวจโครงการทันที
"เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์" Kensington Sukhumvit-Thepharak โครงการวางตัวเองอยู่ที่ ถ.เทพารักษ์ สมุทรปราการ
จะอยู่ติดถนนใหญ่เลยครับ อยู่ตรงข้ามกับ ซ.หมู่บ้านทิพวัล ซึ่งถือเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีคนอยู่พอสมควรเลย
ซึ่งตรงจุดนี้นั้น จะเป็นจุดขึ้นลงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง "สถานีทิพวัล" ด้วย
ทำให้โครงการห่างจากรถไฟฟ้าแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น
ที่สำคัญ "สถานีทิพวัล" ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว "สถานีสำโรง" แค่ 1 สถานีเท่านั้น
ทำให้อีกหน่อย การเข้าเมือง จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และสะดวกมากทีเดียว
และไม่ใช่เพียงแค่นั้นนะครับ
ไหนๆก็กล่าวถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้ว ก็ขอเสริมข้อมูลซะหน่อยแล้วกัน
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง จะมีทั้งหมด 23 สถานี สถานีเริ่มต้นจะเป็น สถานีรัชดา นะครับ
ซึ่งตรงสถานีนั้น จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย
รถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านลงมางทางลาดพร้าว และจะไปตัดกับรถไฟฟ้าสายสีเทาที่ สถานีฉลองรัช
ต่อมาทางลาดพร้าว 101 ลงมาตัดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ สถานีแยกลำสาลี
ลงมาอีกหน่อยก็มาตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะวิ่งไปสนามบินสุวรรณภูมิที่ สถานีพัฒนาการ
แล้วก็ยังมาตัดกับรถไฟฟ้าสายอนาคตที่จะวิ่งจากแยกบางนาไปสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย
และสุดท้าย มาจบที่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสำโรง นั่นเองครับ
จะเห็นได้ว่า จากการที่มีสถานีอินเตอร์เชนจ์มากมายเหล่านี้
จะสร้างความสะดวกให้กับเรามากมายเลยล่ะครับ และแน่นอน มูลค่าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามด้วย จากโครงข่ายที่สร้างเสร็จเพิ่มเรื่อยๆ
จากในภาพ ตรงสถานีสำโรง เราจะสามารถมองเห็นโครงการได้เลย ที่เห็นรถเครนนั่นละครับ
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมครับ?!!
.....
นั่นสิ ถูกต้องแล้วล่ะครับ อย่าไปเชื่อน้าา.. ผมแค่ล้อเล่น 555
แต่จริงๆแล้ว โครงการจริงก็อยู่ถัดจากสถานีไปแปบเดียวเองนะ
เอาล่ะ มาดูที่การเดินทางกันต่อ
ผมได้ทดลองเดินทางไปที่โครงการ โดยใช้รถไฟฟ้า ไปลงที่ "สถานีสำโรง"
เอ.. ทำไมมันดูไม่ใหม่เอี่ยมอ่องอย่างที่คิดหว่า...,,?
ตรงสถานี จะมีห้าง "อิมพีเรียล สำโรง" ห้างหลักของคนโซนนี้อยู่
เวลากลับบ้านก่อนเข้าคอนโด เราสามารถแวะซื้อของกินของใช้ได้สบายๆ หรือจะแวะดูหนังก็ตามใจ
มี Skywalk เดินเข้าห้างได้เลย
ลงจากสถานีมา เดินไปนิดเดียวตรงแยก เทพารักษ์ จะมีพี่วินมอไซ และรถสองแถวคอยให้บริการอยู่เพียบ
แต่ถ้าใครอยากเดินออกกำลังกายก็ตามสบายนะครับ แค่1กม.กว่าๆเท่านั้นเอง เดินพอได้เหงื่ออยู่ ชิลๆเนอะ
เลือกเอาได้ ตามใจชอบครับ
เพียงแค่แปบเดียว ก็ถึงโครงการแล้วครับ เรียกว่า "ตดยังไม่ทันหายเหม็น" เลย 555
เวลาจะกลับไปที่รถไฟฟ้า ก็ข้ามฝั่งโดยสะพานลอยที่อยู่ข้างๆโครงการได้เลยครับ
มีรถสาธารณะให้โบกอยู่หลากหลาย
อ๋อ ลืมบอกไป ป้ายรถเมล์ ก็มีนะครับ อยู่แถวสะพานลอยนั่นแหละ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียว
คงจะเป็นเพราะว่าเป็นแหล่งชุมชนอยู่แล้วด้วย
เพราะฉะนั้นในแง่การเดินทาง ต่อให้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองยังไม่เปิดให้บริการ
ผมก็ถือว่าสะดวกอยู่พอควรแล้วนะ ยิ่งถ้ารถไฟฟ้าเสร็จเมื่อไร ก็ยิ่งติดปีกเลยล่ะ
"เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์" Kensington Sukhumvit-Thepharak เป็นโครงการ High rise 1 อาคาร สูง 38 ชั้น 1318 ยูนิต บนเนื้อที่ 4-2-24 ไร่
สามารถจอดรถได้ประมาณ 32% (ยังไม่รวมซ้อนคันนะ)
โครงการคาดว่าสร้างเสร็จ ช่วงต้นปี 2563 นานเหมือนกันแหะ
ข้อดีคืออาจจะเสร็จใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเลย และคนที่มีภาระอยู่ก่อน ก็จะมีเวลาเคลียร์ตัวเอง
ส่วนข้อเสียคือ คนที่อยากอยู่เร็วๆ รอไม่ไหว ก็อาจจะต้องตัดใจไปสอยที่อื่นแทน
ขนาดห้องในโครงการ จะมีดังนี้
1 ฺBedroom ขนาด 20.5-21 ,23 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 30.5-31.5 ตร.ม.
ตัวห้องเนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้าง จึงทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้น
เพดานห้องก็สูงถึง 2.58 ม. ถือว่าสูงนะ เวลาใช้งานจริง จะรู้สึกโปร่งดี
ปกติคอนโดค่าตัวประมาณ 1 ล้านต้นๆ จะสูงแค่ 2.1-2.3 ม. เท่านั้นเอง
นับว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีของโครงการ
ค่าตัวนั้นเริ่มที่ 1.09 ล้านบาท หรือ 5.3 หมื่นบ./ตร.ม.
ส่วนเฉลี่ยทั้งโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นบ./ตร.ม.
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าไม่ใช่ห้องโปรจะราคาเท่าไร
ผมขอลองสมมติว่า 1.2 ล้านบาทละกัน ก็จะตกเฉลี่ย 5.7 หมื่นบ./ตร.ม.
กับคอนโดสมัยนี้ และเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า แม้จะเป็นสถานีที่ไกลหน่อย ก็ถือว่าเป็นราคาที่รับได้ครับ
ส่วนกลางที่นี่ผมว่าออกแบบดีนะ มีครบครัน
ทั้งสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 30 ม. , The Gym Club (fitness) , สวนลอยฟ้า
และไม่ใช่แค่ครบ แต่สวยอีกด้วย ดูแตกต่าง
ยังกับคอนโดราคา 1 ล้านปลาย - 2 ล้านบาท+ เลย
อยากเห็นของจริงซะแว้ว จะสร้างเหมือนโมเดลแค่ไหนกัน
สำหรับในเรื่องอาหารการกิน และที่ซื้อของใช้
ถ้าไม่นับ "อิมพีเรียล สำโรง" ตรงรถไฟฟ้า ตรงบริเวณโครงการเองไม่มี
แต่เลยโครงการไปหน่อย จะมี "Palm Island Mall" อยู่ ซึ่งมี Big C อยู่ในนั้นด้วย
เดินไปประมาณ 100 ม.เองครับ เดินได้สบายๆ
ถ้าใครอยากกินร้านอาหารข้างทาง ก็ข้ามเข้าไปใน ซอยหมู่บ้านทิพวัล เลยครับ
มีร้านอาหารอยู่เยอะเลย และมี Tesco Lotus Express , 7-Eleven ด้วย
ระยะก็ประมาณ 200-300 ม. ได้
จากทั้งหมด ผมว่าในแง่อยู่อาศัยเอง ผมให้ผ่านนะ
มีความสะดวกในการเดินทาง ใช้ชีวิตอยู่พอสมควร
สำหรับในแง่ลงทุน
ยังหาคู่แข่งมาเทียบได้น้อย เนื่องจากเป็นทำเลใหม่ของคอนโด
แต่จากการเป็นเส้นที่จะมีรถไฟฟ้าผ่าน จึงทำให้คาดหวังได้ว่า
ราคามีโอกาสจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ
และด้วยราคาค่าตัวของโครงการ อยู่ที่ล้านต้นๆ กับการอยู่ติดรถไฟฟ้าสายที่ใกล้กับรถไฟฟ้าเส้นหลักสีเขียวที่วิ่งเข้าเมือง
ผมเชื่อว่ายังมีช่องว่าง ให้เราเก็บกินกำไรได้ไม่ยากครับ
สำหรับการปล่อยเช่านั้น
ผมลองหาข้อมูลจากหอพัก อพาร์ทเมนท์ ที่ดูดีหน่อยในโซนใกล้เคียง ค่าเช่าจะอยู่ที่ 2,000 - 4,500 บ./เดือน
ราคาจะผันตามความลึก ความเก่าใหม่ของตึกนะครับ
ถ้าสมมติเราซื้อห้องราคา 1.2-1.3 ล้านบาทมาเพื่อปล่อยเช่า เราจะต้องผ่อนอยู่ที่ราวๆ 7,000+- บ./เดือน
ผมเชื่อว่าค่าเช่ามีโอกาสไม่มากที่จะได้ 7,000 บ. โดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ราว 5,000 - 6,000 บ./เดือน
แต่ก็ไม่แน่นะครับ มีสิทธิได้ค่าเช่าดีๆอยู่เหมือนกัน
จากเหล่าวิศวกร หรือคนตำแหน่งสูงๆ ที่ทำงานอยู่ตามโรงงานใหญ่ๆ ซึ่งแถวนั้นมีเยอะเชียวละ เช่น Toyota , Isuzu , Honda , Denso
ดีมานด์อาจจะไม่เยอะถล่ม แต่เชื่อว่าหาผู้เช่าได้ ถ้ารับกับเรตนี้ได้ ก็จัดได้เลย
ขอแนะอีกหน่อยว่า
ผมว่าเหมาะกับคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอยู่แล้ว ในการซื้อปล่อยเช่านะ ไม่เหนื่อยในการดูแล
สำหรับนักลงทุนในเมืองอาจไม่เหมาะเท่าไร
นอกจากคุณจะซื้อหลายๆห้องนั่นล่ะ ถึงจะคุ้มค่ากับการมาดูแลหน่อย
อ๋อ ลืมบอกไปอีกหน่อยว่า
จากรูปด้านบนจะเห็นโมเดลตึกขาวๆ อันนั้นก็เป็นของ Origin นะครับ
แต่จะเป็นโครงการในอนาคตซึ่งจะแพงกว่า อยู่ติดถนนใหญ่เหมือนกัน
ผมเดาว่า คงใกล้รถไฟฟ้าเสร็จก่อนนั่นละถึงจะขาย โดยอาจจะใช้แบรนด์ที่สูงกว่า
ซึ่งจะมีผลดีกับ Kensington เพราะจะมาช่วยดึงราคาขึ้นไปด้วย
สรุปตามสไตล์คอนโดติดดอย
สำหรับการอยู่เอง ผมก็ว่าไม่เลวนะครับ เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนสมุทรปราการ หรือละแวกใกล้เคียง รอรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเสร็จได้
สำหรับการเล่นสั้น ผมคงไม่แนะนำดีกว่า ด้วยจำนวนยูนิตที่พอตัว ต่อให้ขายได้ ก็ได้กำไรไม่มากนัก ด้วยเป็นโซนส่วนต่อขยาย จึงไม่คุ้มที่จะเสี่ยงครับ
สำหรับการปล่อยเช่า เหมาะสำหรับคนในโซนนั้นอยู่แล้วในการลงทุนปล่อยเช่า เชื่อว่าปล่อยเช่าได้ครับ เรตผลตอบแทนถือว่าปกติของคอนโดสมัยนี้
สำหรับการเล่นระยะยาว ด้วยการที่ติดรถไฟฟ้า เมื่อรถไฟฟ้าเปิดบริการเมื่อไร ราคาจะปรับขึ้นพอตัวเลยล่ะ สามารถทำกำไรได้แน่นอน
"เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์" Kensington Sukhumvit-Thepharak เป็นโครงการที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเอง และปล่อยเช่า สำหรับคนที่ทำงานโซนสมุทรปราการ และละแวกใกล้เคียง ระยะยาวทำกำไรได้ดีจากการขยายตัวของเมืองตามรถไฟฟ้า ไม่เหมาะกับเล่นสั้นเท่าไรครับ
นึกถึงลงทุนคอนโด นึกถึงคอนโดติดดอย ^0^