Land and House เป็นบิ๊กอสังหาฯ ที่เราคุ้นชื่อกันมาอย่างยาวนาน เป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่ปูทางให้ Developer อสังหาเจ้าอื่นๆ เดินตามมาเยอะเหมือนกัน
แต่ถ้าเป็นในเรื่องของคอนโดนี่ต้องยอมรับนะว่านานๆ ทีจะเห็น “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” เปิดตัวสักโครงการ
อย่างเมื่อปีกลายนี่เห็นเค้าเปิดตัว “The Key ศรีนครินทร์” ตัวนั้นเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ตัวนั้นมูลค่าการลงทุนสูงถึง 6,500 ล้านบาทเลยทีเดียว
วันก่อนขับรถผ่านสถานีไทรม้า เหลือบๆ ตาไปเห็นที่ดินแปลงหนึ่งล้อมสังกะสี มีไวนิลติดเอาไว้ เลยลองลงไปดู พบว่าเป็นที่ดินที่ทาง “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” เตรียมพัฒนาเป็นคอนโดใหม่ภายใต้แบรนด์ 'The Key' กับโครงการ 'The Key รัตนาธิเบศร์' นั่นเอง
ซึ่งทางผมลองหาข้อมูลต่างๆ ของโครงการทางอินเตอร์เน็ต พบว่ามันไม่มีเลยนี่หว่า วันนี้เลยได้โอกาสถ่ายรูปมาให้ชม และขอพูดถึงทำเลโครงการทำเป็นหัวข้อติดดอยโร้ดทูให้อ่านไปพลางๆ ระหว่างรอเค้าเปิดตัวครับ
ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลโครงการกันก่อน (ได้มาจากไวนิลนั่นแหละ) 'The Key รัตนาธิเบศร์' จะมีขนาดพื้นที่โครงการอยู่ที่ 16-3-54.9 ไร่ มาในรูปแบบคอนโด High-Rise สูง 21 ชั้น ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร (จำนวน 3 ทาวเวอร์) และอาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ความสูง 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ห้องชุดพักอาศัยจำนวน 1,699 ห้อง และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์จำนวน 5 ห้อง ที่จอดรถ 720 คัน (ที่จอดรถยนต์ปกติ 708 คัน และที่จอดรถสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพและคนชรา 12 คัน) ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 24 เดือน ขณะนี้โครงการกำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่ครับ
'The Key รัตนาธิเบศร์' ตัวนี้ที่ดินโครงการตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขามุ่งหน้าเข้าแยกติวานนท์ (วิ่งเข้าเมือง) ตัวโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี ถ้าหากว่าเราวัดระยะทางจาก Google Maps จากทางออกที่ 1 ที่เป็นทางออกที่ใกล้ที่สุด จะอยู่ที่ประมาณ 200 ม. เท่านั้นเอง ระยะทางเท่านี้เดินชิลมากๆ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมันบางจากด้วย
อย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นรัตนาธิเบศร์ ช่วงระหว่างถนนราชพฤกษ์กับสะพานพระนั่งเกล้า ตรงนี้แอบได้เปรียบในเรื่องของแหล่งไลฟ์สไตล์เหมือนกันครับ เพราะสามารถเลือกไปช้อปไปชิลได้ทั้งทางฝั่งถนนงามวงศ์วาน The Mall งามวงศ์วาน, Big C, Esplanade รวมถึง Central Plaza รัตนาธิเบศร์ เป็นต้น
รวมถึงเส้นราชพฤกษ์ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นจุดที่น่าสนใจมากๆ เพราะการมาของ Central Westville รวมถึงร้านรวงต่างๆ ในย่านนี้ บอกเลยว่าครบครันจริงๆ นอกจากนี้ยังใกล้กับ Central Westgate ฮับแห่งย่านบางใหญ่ สามารถกลับรถขับมุ่งหน้าไปได้ (ซึ่งตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากจุดกลับรถมาก) หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปก็ได้แบบชิลๆ ตอนนี้ตลอดสาย 20 บาทเท่านั้น
ขอเสริมเรื่องของการเดินทางอีกสักนิด ที่ตั้งโครงการเรียกได้ว่าได้เปรียบในแง่ของการเดินทางพอสมควรครับ เพราะพิกัดโครงการอยู่ไม่ไกลจากสถานีพระนั่งเกล้ามาก จุดนี้จึงทำให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นสำคัญได้หลายสายเลยทีเดียว
สามารถขับออกจากโครงการข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปโผล่ฝั่งงามวงศ์วาน หรือจะเลือกเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ ขับไปออกเพชรเกษม เข้าสู่สาทรและตากสิน ได้อีกเส้นทาง นอกจากนี้ถ้าเลือกขับมาทางเส้นราชพฤกษ์ สามารถเชื่อมต่อถนนบางรวยไทรน้อย อันนี้จะใช้เข้าสู่เส้นจรัญสนิทวงศ์ ถนนสำคัญของฝั่งธนฯ ได้เช่นเดียวกันครับ
ถนนราชพฤกษ์ยังสามารถขับเข้าสู่ถนนนครอินทร์ เพื่อไปเข้าบางแค หรือไปต่อที่กาญจนาภิเษก ก็ถือว่าสะดวกเช่นเดียวกันครับ ถ้าไม่นับสภาพการจราจรนะ 5555
ถ้าเป็นในแง่ของการใช้รถสาธารณะ พระเอกของเราก็คือรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั่นเอง ข้อดีคือสถานีไทรม้าถือว่าเป็นสถานีช่วงกลางๆ ของสายสีม่วงสามารถนั่งไปเตาปูน เพื่อต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้าตัวเมืองชั้นในประมาณ 9 สถานี ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
และที่สำคัญคือสายสีม่วงเป็นสถานีนำร่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายด้วย การเดินทางค่อนข้างประหยัดเงินในกระเป๋าลงเยอะเลยครับ
แถมเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟฟ้ามายังโครงการ ไม่เปลี่ยวเลย สามารถเดินได้โดยไม่ต้องกังวลใจ นอกจากนี้จากโครงการยังใกล้ทั้งปั๊มบางจาก และ ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีกด้วย ถือว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยพอสมควรฮะ
ตอนนี้ก็คงต้องรอให้ EIA ผ่านก่อนแหละ ถึงเวลานั้นเราคงจะได้ข้อมูลในเรื่องของราคามาแล้ว แต่แบรนด์ The Key ของ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ อาจจะไม่แรงมากเท่าไหร่ แต่ถ้าเอาชัวร์จริงๆ ก็คงต้องรอข้อมูลทางการอีกทีหนึ่งฮะ ไว้ได้ข้อมูลเมื่อไหร่ผมจะนำมาอัปเดตอีกที
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ