บริทาเนีย หรือ BRI เคาะชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลรอบปี 2566 เพิ่มอีก 0.603 บาท/หุ้น หลังกวาดรายได้ทั้งปี 2566 ไปกว่า 5,862 ล้าน หนุน Dividend Yield ทั้งปี ทะลุ 9.6% จากราคาปิดวันที่ 28 ก.พ.67 ที่ 7.50 บาท แง้มปี 67 เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดรวม 20 โครงการ มั่นใจปี 2567 กวาดรายได้ทะลุ 7,500ล้านตามเป้า

        บริทาเนีย เผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือนที่เหลือของปี 2566 ในอัตรา 0.603 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.115 บาทก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีจ่ายปันผลคิดเป็น Dividend Yield กว่า 9.6% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ 7.50 บาท เป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 514 ล้านบาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 เม.ย. 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 2 พ.ค. 2567 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 16 พ.ค. 2567

        สภาวะตลาดปี 2566 มีหลากหลายปัจจัยที่กระทบต่อกำลังซื้ออสังหา แต่บริทาเนียยังสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้ โดยในปี 2566 บริษัทมียอดขายกว่า 12,561 ล้านบาท มีรายได้รวม5,862 ล้านบาท พร้อมทั้งมีกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท และยังเดินหน้าจ่ายปันผลในอัตราที่จูงใจ ตอบแทนความไว้วางใจของผู้ถือหุ้น สำหรับโครงการที่สามารถกวาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างยอดเยี่ยมระดับ Top 3 ในปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้แก่ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน-รามอินทรา (Grand Britania Wongwaen-Ramintra) เบลกราเวีย บางนา-พระราม 9(Belgravia Bangna-Rama9) แกรนด์บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Grand Britania Ratchaphruek-Rama 5) 

        สำหรับสถานการณ์ธุรกิจบ้านจัดสรรในปี 2567 นั้น กำลังซื้อในเซ็กเมนท์ต่ำกว่า 3 ล้านบาทยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่อกลุ่มตลาดดังกล่าวยังค่อนข้างเข้มงวด ตลาดศักยภาพในปีนี้จึงเป็นกลุ่มตลาดกลาง-บน (Middle to High) โดยเฉพาะกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์ภาพรวมตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และอาจมีมาตรการสนับสนุนการซื้ออสังหา ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค 

        โดยในปี 2567 บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 17,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ภายใต้แบรนด์เบลกราเวีย (Belgravia)ระดับราคาสูงกว่า 20 ล้านขึ้นไป และแบรนด์แกรนด์ บริทาเนีย ระดับราคาสูงกว่า 10 ล้านขึ้นไป ขณะเดียวกัน ยังกระจายพอร์ตฟอลิโอไปในอีก 6 จังหวัดนอกกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น

        สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2567 จะนำร่องเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,350 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้าแผน “Crafting for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง มาพร้อมกับ 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1.Sustainable Growth Crafting รังสรรค์ธุรกิจสู่ความยั่งยืน กระจายการเติบโตไปยังหลากหลายเซ็กเมนท์ 2.Happiness Crafting รังสรรค์เพื่อความสุข สร้างแบรนด์แห่งความสุข ด้วยหลากหลายนวัตกรรมและบริการภายในบ้าน 3.Craft B Best for All รังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดสู่สังคม ใส่ใจรังสรรค์ความยั่งยืนเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในโครงการ และภายนอกโครงการ