“ห้องน้ำเก็บเงิน 10 บาท ที่อยู่หน้าโครงการ จะมีใครเข้าวะ ในเมื่อข้างในก็มี ฟรีด้วย!!!”
แต่ใครที่เคยไปเดิน “ท่ามหาราช” ก็พอจะรู้นะครับว่าห้องน้ำฟรีที่นี่ “กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ” แค่ไหน
วันเวลาผ่านไป ทุกครั้งที่ผมกลับไปก็ยังเห็น “ห้องน้ำเก็บเงิน” ตั้งอยู่ที่เดิม นั่นแสดงว่ากิจการเค้าน่าจะไปได้
จนเมื่อปลายปีก่อน “พี่ชาย” ผมก็ได้เล่าให้ฟังว่า “วันก่อนได้ไปดูโปรดักส์มาอย่างนึง น่าสนใจ”
“มีคนจากประเทศ “สวิส” เค้ามาสร้างห้องน้ำแบบเก็บเงินในประเทศไทย เห็นว่าประสบความสำเร็จมากเลยนะ แค่ 2-3 ปีก็คืนทุนแล้ว”
“ท่ามหาราช ใช่ไหม?” …….. “ใช่ๆ”
ผมถึงบางอ้อเลย
เรื่องราวที่ได้ยินก็คือ ฝรั่งกลุ่มนี้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแล้วพบว่า “ห้องน้ำหายากมาก และไม่สะอาดเลย”
เรื่องที่ดูตลกร้ายก็คือ เค้าไปเที่ยวแถวๆ “ท่ามหาราช” นั่นแหละ และลอง “search google map” หาห้องน้ำดู พบว่ามันห่างจากจุดที่เค้าอยู่ไป 1.6 กม.!!!!! ฮ่าฮ่าฮ่า
จริงๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีในสมัยนั้นมากกว่า ที่คนไทยยังไม่คุ้นเคยกับการ “ปักหมุด”
อย่างไรก็ตามเค้าก็ได้ “ไอเดีย” การสร้าง “ห้องน้ำดีๆ” แบบเก็บเงินขึ้นในประเทศไทย และใช้เทคโนโลยีการปักหมุดเข้ามาช่วยอีกทาง
เค้าจึงกลับมาเมืองไทยอีกครั้งพร้อมห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ที่ “ท่ามหาราช” นี่แหละน่าจะเป็นที่แรก ในชื่อ “Mister Loo”
ผมถามพี่ชายว่า “ทำไมผมต้องจ่ายเงินเพิ่อเข้าห้องน้ำนี้ ทั้งๆ ที่เดินไปไม่กี่ก้าวก็มีห้องน้ำฟรี?”
“มันเป็นเรื่องของ “คุณภาพ” สิ่งที่คุณได้จากการจ่าย 10 บาท ก็คือ ห้องน้ำที่สะอาดมากๆ หอม ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย อุปกรณ์ทุกอย่างมีครบถ้วน”
“ในแง่การสร้าง เค้าวางระบบมาดีมาก ไม่มีกลิ่นของเสียที่ระบายออกไปเลย ขณะที่การออกแบบในห้องน้ำก็เอื้อให้ทำความสะอาดง่ายๆ”
“อย่างโถส้วม จะเห็นว่าข้างใต้โถไม่ติดพื้น จะได้เอาไม้ถูพื้นเข้าไปถูทำความสะอาดได้ง่าย”
“เค้าบอกว่าทำแค่ 2-3 ปี ก็คืนทุนหมดแล้ว จากนั้นก็เก็บแต่กำไร”
ผมได้ฟังแล้วก็นึกได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน ผมพา “หม่าม้า” ไปเที่ยวตลาดน้ำแห่งหนึ่ง จำได้ว่าห้องน้ำที่นั่นมีค่าบริการ 10 บาท
หม่าม้าผมอุทานก่อนเลย “แพง!!!”
ผมก็คิดแบบเดียวกัน แต่ก็จ่ายไปเพราะมันไม่มีทางเลือก แต่หลังจากที่ผมได้เข้าไปใช้บริการแล้วกลับพบว่า “มันคุ้มค่า”
มันคือ ห้องน้ำติดแอร์ ที่พื้นที่กว้างขวาง มีโซฟาวางอยู่กลางห้อง!!! กลิ่นหอมมาก อุปกรณ์ครบ เรียกได้ว่าเข้าไปแล้ว “ไม่อยากรีบออกมา”
หลังจากผมออกมาแล้ว ก็เห็น “หม่าม้า” กำลังจ่ายอีก 10 บาท เพื่อให้ “อาอี้” ลองไปเข้าดู ทั้งๆ ที่ “อาอี้” ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำ!!! ฮ่าฮ่าฮ่า
นี่แหละครับ “ทำไมคุณถึงยอมจ่าย 10 บาท เพื่อเข้าห้องน้ำ”
นี่ผมไม่ได้มาเขียนโฆษณาให้เค้านะ (ไม่รู้จักกันเลยด้วย ฮ่าฮ่า) แต่เห็นว่าน่าสนใจครับ เพราะตอนนี้ “Mister loo” เค้าขยายไปอีกหลายที่แล้ว
“Mister Loo” ก่อตั้งโดย “Mr.Dominik Schuler” และ “Mr.Andreas Wanner” เค้าเล่าว่า
“ตั้งข้อสังเกตเมื่อครั้งมาเที่ยวเมืองไทยว่า ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย ทำให้ผู้คนจากต่างประเทศเดินทางมาเป็นจำนวนมากรวมถึงคนไทยที่สนใจมาเที่ยวกันมากมาย แต่ปัญหาใหญ่ที่พวกเขาพบเจอ คือ ห้องน้ำสาธารณะที่ไม่ถูกสุขอนามัย ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งจำเป็นและต้องมีเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งจะเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับคนไทยแถมยังเป็นแม่เหล็กที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวไทยมากขึ้นด้วย”
ซึ่งตอนนี้ห้องน้ำของ “Mister Loo” ก็ไปโดนใจ “รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา” เข้าแล้ว พร้อมดันโปรดักส์นี้อย่างเต็มที่เลย
อย่างล่าสุดได้ไปเปิดที่ “ตลาดนัดเซฟวัน” ถ.มิตรภาพ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 10,000 คน/วัน มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 500 คน ในช่วงสุดสัปดาห์
500x10 ก็ 5,000 บาท ซึ่งต้นทุนแทบไม่มีอะไรเลย เก็บกินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คืนทุน
โดย “Mister Loo” ตั้งเป้าการลงทุนในช่วง 5 ปีแรก จะเพิ่มจำนวนห้องน้ำให้ได้ประมาณ 80 แห่งในไทย และเติบโตเพิ่มขึ้นโดยรวมอีก 300 แห่งจากการมีแผนเตรียมขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม อินเดีย และกัมพูชา ต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ จะลองจ่าย 10 บาท เพื่อเข้าห้องน้ำหรือยังครับ? อิอิ
#คอนโดติดดอย #ติดดอยล้อมวงเล่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : mgronline.com
ขอบคุณรูปจาก : เพจ Mister Loo AG
Tag :
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
แม้ว่าโครงการนี้จะยังไม่ได้เปิดตัวหรือทำการตลาดอย่างเป็นทางการ แต่ผมว่าคออสังหาหลายๆ คนคงรู้จักเค้าดี เพราะก่อนหน้าจะเดบิ้วต์ด้วยชื่อ 'Ideo Cult Chula' น้องเค้าเคยมาด้วยชื่อเก่าที่อาจจะไม่เก๋มาก แต่ฟังแล้วรู้เลยว่าคอนโดนี้อยู่ตรงไหน กับชื่อ 'IDEO Chula - Rama 4' นั่นเองครับ ทีนี้หลายคนก็น่าจะพอนึกออกกันแล้วใช่ไหม!!
หายากมากนะทุบตึกสูงทำตึกเตี้ย รื้อบ้านทิ้งทำสวนกึ่งๆสวนสาธารณะ ต้องมี passion มาก ๆ แน่นอน
"LIFE JJ Interchange" เมื่อใครๆ ก็หันมาทำคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้กันหมด
เป็นประจำทุกปีครับ ปีใหม่ที่อัพเดตที กับสีมงคล จริงๆ ผมชอบนะอะไรแบบนี้55555 เคยบอกทุกคนอยู่บ่อยๆ ว่าต่อให้ไม่เชื่อเรื่องสีเสื้อมงคล แต่หยิบใส่ให้ถูกวันนับว่า Challenge คือเราจะหยิบสีมงคลประจำวันยังไงให้แมชกับเราดีนะ ได้แต่งตัวตามเทสแฟชั่นสนุกๆ แล้วยังได้เสริมดวงอีก ใครไม่ชอบ ผมโคตรชอบ55555555
บีชฟร้อนท์คอนโด บนทำเลที่จัดว่าเป็น “ไข่แดง” ของพัทยา ที่อาจจะหาที่ดินไม่ได้อีกแล้ว!!
ติ่งบักโตะ ปลื้มปริ่มแน่นอน ภายในร้านจะจำลองบางส่วนของร้านราเมนที่นารูโตะชอบกินแบบเกลี้ยงชามมาให้เราได้ซึมซับบรรยากาศกัน
วันก่อนไปเดินเล่นที่เมก้า สะพานเหล็กมา เพิ่งสังเกตจริงจังว่าตอนนี้ตึกแถวตรงเวิ้งย้ายออกเกลี้ยงทำสังกะสีล้อมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
เตรียมปูพรมแดงต้อนรับ "Bangkok Mall" ห้างใหญ่ที่สุดในไทย จากทาง The Mall Group
ร่ำลือกันว่า “บะหมี่มันปู” ที่เซี่ยงไฮ้ 1 ชาม มาจากปูขน 10 กว่าตัว!!