เรื่องมันเกิดขึ้นในวันที่หมีทำข่าวโปรพิเศษของบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนครับ
เป็นโปรเกี่ยวกับการรื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่ ที่อ่านๆ ไปแล้วหมีรู้สึกว่า เฮ้ย มันน่าสนใจมากเลยนะ
เลยไปแกล้งๆ หาข้อมูลดู แล้วหมีก็ตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะพวกที่มีที่ทางในกรุงเทพฯ มีที่ดินดีๆ แต่ไม่อยากขายที่ทิ้งให้กับผู้ประกอบการทั้งหลาย อยากที่จะเก็บเอาไว้เป็นมรดกให้ลูกให้หลานนี่มีเยอะจริงๆ
อาจเพราะหมีไม่ค่อยได้ติดตามตลาดรับสร้างบ้านเท่าไรด้วยแหละ เลยไม่รู้ว่ามันคึกคักขนาดนี้
แถมตอนนี้ตลาดรื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงที่ใครๆ ก็สนใจกันทั้งนั้น
ดูๆ แล้วมันก็มีหลายปัจจัยนะนอกจากเรื่องการอยากเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน จำพวกราคาที่ดินช่วงนี้หรือฟังก์ชั่นในการอยู่อาศัยที่ปรับเปลี่ยนไปด้วยก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งเหมือนกัน
ช่วงน้ำท่วงกรุงเมื่อหลายปีก่อนจะเห็นเลยว่าคนแห่ไปซื้อคอนโดอยู่กันเพียบ ได้ไงล่ะ น้ำมาก็ต้องหนีขึ้นที่สูงมั้ย
จนตอนนี้ตลาดคอนโดเริ่มซาลงละ เป็นตลาดแนวราบเองที่กำลังมาแรง พวกที่มีบ้านในที่ดีๆ อยู่แล้วหลายรายเลยเลือกที่จะเปลี่ยนโฉมตัวบ้านของตัวเองหน่อย
มันก็จะมีคำถามตามมาอีกว่ารีโนเวทไม่ดีกว่าเหรอ คำตอบคือรีโนเวทก็ดีนะ แต่เมื่อเทียบกับการรื้อบ้านเดิมแล้วสร้างใหม่นี่ราคามันก็พอๆ กันเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้นฟังก์ชั่นของตัวบ้านที่ได้มันก็ดีกว่ารีโนเวทด้วย
เอาเป็นว่าวันนี้เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าจริงๆ แล้วเทรนด์รื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่นี่มันมาแรงยังไง ทำไมถึงมาแรง งานนี้อ่านจบอาจได้ไอเดียดีๆ ไปปรับกับบ้านเก่าของเราด้วยก็ได้นะ ใครจะรู้
“ทุบบ้านเก่า สร้างบ้านใหม่” ทำไมถึงเป็นที่นิยม?
ถ้าจะให้ขยายความกันมันก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้เทรนด์มันมาแรงในช่วงปีนี้
หนึ่งเลยคงต้องไปมองในเรื่องของราคาที่ดิน
ราคาที่ดินตอนนี้ถือว่าสูงนะ แถมยังมีการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วด้วย แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในเรื่องของราคาที่ดินที่ถือได้ว่าเก็บไว้ขายยังไงก็ได้ราคาดี
ไม่ต้องพูดถึงที่ดินที่อยู่ในทำเล Prime Area ราคานี่สูงปรื๊ดๆ กันตลอดเลย เศรษฐีทั้งหลายที่มีที่ดินในทำเลเหล่านี้เค้าก็เสียดายไง แทนที่จะขายไม่สู้เก็บไว้ให้ลูกให้หลาน จะได้ไม่ต้องให้เด็กๆ ย้ายออกไปจากทำเลเดิม
ต่อมาคงจะเป็นในส่วนของราคาครับ
อย่างที่บอกไป ถึงจะยกในเรื่องของการรีโนเวทมาใช้แต่ราคามันก็พอๆ กับการสร้างบ้านใหม่เลยนะ และหัวใจสำคัญของการแปลงโฉมบ้านเก่าของเรามันก็คือ "งบประมาณ" นี่แหละ
ค่าใช้จ่ายหลักๆ สำหรับรีโนเวทบ้านนั้นก็จะมีในส่วนของงานสถาปัตยกรรมและวัสดุตกแต่ง ค่าระบบน้ำ-ไฟฟ้า ค่างานโครงสร้าง แล้วก็งานตกแต่งภายใน
ส่วนการรื้อสร้างใหม่ก็คล้ายๆ กัน แต่จะมีในส่วนของงานรื้อถอนกับค่าเช่าที่อยู่อาศัยในกรณีที่ว่าเราไม่มีที่อยู่สำรองเพิ่มขึ้นมา
ฟังดูยุ่งยาก แต่บริษัทรับสร้างบ้านสมัยนี้เค้าจะมีโปรพ่วงมาด้วยคือช่วงสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ซึ่งงบที่ให้ก็ไม่นับว่าน้อย
พูดถึงในแง่ของการทุบบางส่วนทิ้งแล้วต่อเติมออกไปมันก็จะมีความยากด้วยเหมือนกัน ที่สำคัญยังแพงกว่าถ้าเทียบกับการทำงานในพื้นที่ที่มีขนาดเท่ากัน ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าค่ารีโนเวทอาจจะแพงกว่าทุบแล้วสร้างใหม่ไปอีก
ยังไม่ได้พูดถึงการรีโนเวทที่บางครั้งก็ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความแข็งแรงด้วยนะ ทุบผนังเอย ทุบพื้นเอยงี้ ใช้งานนานไปความแข็งแรงของตัวบ้านก็ลดลงครับ
ส่องทำเลดังมาแรงประกอบเทรนด์
หมีลองหาๆ ดูแล้วพบว่าทำเลส่วนใหญ่ที่มีลูกค้าสนใจอยากจะรื้อบ้านเก่าแล้วสร้างใหม่จะอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ทั้งหมดเลย จะมีลูกค้าต่างจังหวัดเป็นส่วนน้อยเท่านั้น เรียกได้ว่า 90:10
ทำเลที่มีลูกค้าสนใจเทรนด์นี้เยอะจะเป็นโซนสีลม, สาทร, พระราม 4, ศรีนครินทร์, พหลโยธิน, วิภาวดี, พัฒนาการ, รามคำแหง, นราธิวาสราชนครินทร์ แล้วก็สุขุมวิท
อย่างที่เห็น… เป็นโซนดังๆ ที่มีการกว้านซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาเป็นโครงการแนวสูงกันทั้งนั้น
แต่เจ้าของที่ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงอายุที่ไม่อยากย้ายออกจากทำเลเดิมแล้วก็ไม่อยากขายที่ดินนะ
จะว่าไปทำเลใจกลางเมืองนี่มีบ้านเก่าเยอะเลย ยิ่งโซนสีลม-สาทร นี่ยิ่งเยอะ แต่ก็จะถูกกว้านซื้อไปพัฒนาโครงการเยอะด้วยเหมือนกัน
พอมีเทรนด์นี้มาผู้พัฒนาโครงการอาจต้องปาดเหงื่อหน่อยหรือเปล่านะ เพราะใครๆ เค้าก็ไม่ได้อยากขายที่กันเสียแล้วด้วยช่วงนี้ 5555
อย่างที่บอกไปครับ ตอนแรกเจ้าของบ้านหลายรายเค้าตั้งใจจะรีโนเวท ไงๆ ทางเลือกของการปรับปรุงบ้านเก่าส่วนมากก็ต้องเลือกที่จะรีโนเวทกันอยู่แล้ว
แต่พอออกแบบมาแล้วมันก็มีหลายจุดที่อาจจะดูแปลกๆ ไปบ้าง แต่ถ้าปรับเป็นการรื้อแล้วสร้างใหม่ แม้ราคาอาจจะมีลดหลั่นกันแต่ก็ไม่ได้มากอะไรนัก เพราะงั้นลูกค้าหลายรายเค้าเลยเลือกที่จะทุบทิ้งสร้างใหม่เพื่อความแข็งแรงทางโครงสร้างไปเลยทีเดียบจบ
เห็นว่าสัดส่วนตลาดของกลุ่มลูกค้าที่เลือกจะทุบทิ้งสร้างใหม่นั้นสูงถึง 30% หรือราวๆ 3,000-4,000 ล้านบาทเลยนะ มันเลยเป็นตลาดที่หมีมองว่าน่าสนใจมากทีเดียว ในช่วงห้าปีต่อจากนี้น่าจะมีสัดส่วนที่มากขึ้นครับ
พูดไปพูดมาก็อดนึกถึงบ้านกึ่งสำเร็จรูปอย่าง
บ้านโมดูลาร์ไม่ได้ เทรนด์นี้เองก็กำลังมาเช่นกัน เป็นบ้านแนวราบไซส์มินิแบบถอดประกอบได้ที่สะดวกสบายสุด
คอนโดติดดอยเราเองก็จัดการโปรเจ็คต์นี้อยู่นะ ใช้ชื่อเท่ๆ ว่า
MEDULAR - Me Modular Project (ขายของสักหน่อย 555)
ถ้าบอกว่าเทรนด์รื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่กำลังมา เทรนด์บ้านโมดูลาร์เองก็กระแสดีไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ ใครอยากทำความรู้จักบ้านแนวนี้เพิ่มเติมก็คลิกไปอ่านกันได้
ตรงนี้ เลยนะ
รวมๆ แล้วคือปีนี้ตลาดบ้านแนวราบคึกคักมากจริงๆ มีเทรนด์ใหม่ๆ กระแสดีๆ มาตลอดตั้งแต่ต้นปีเลย หมีเองก็ค่อนข้างชอบการปรับตัวในทำนองนี้เหมือนกัน เป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้เลือกสรรกันแบบไม่มีข้อจำกัด เยี่ยมจริงๆ