หลังจากรอกันมานาน ในที่สุดชาวฝั่งธนก็ได้เฮกันเสียที เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย วิ่งจากสถานีวัดมังกร–ท่าพระ ก็ได้ฤกษ์เปิดให้ประชาชนทดลองใช้กันแล้ว งานนี้นั่งฟรียาวๆ ถึงกันยาฯ เลยจ้า
รถไฟฟ้าสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นไฮไลท์แถมฮือฮากันมาตั้งแต่เริ่มเปิดภาพจำลองให้ได้ยลโฉมกันแล้ว เพราะแต่ละสถานีตกแต่งกันได้งดงาม ประชันกันสุดฤทธิ์ พี่หมีเห็นว่าได้โอกาสทั้งทีเลยรีบไปใช้บริการกันแล้วก็รีบกลับมาเขียนรีวิวฝากเพื่อนๆ อย่างไวว่องเลย!
งานนี้หมีขออาสาพาทุกคนไปลงทัวร์สักหน่อย รู้หรือว่าถ้าในช่วงที่รถทดลองวิ่งเนี่ย เราสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าได้ฟรีด้วยนะ ซึ่งสายที่จะสามารถใช้บริการได้ฟรีก็จะมีด้วยกัน 5 สถานี ไล่ตั้งแต่ สถานีวัดมังกร สถานีสามยอด สถานีสนามไชย สถานีอิสรภาพ และสุดท้ายที่สถานีท่าพระ
ขบวนรถจะให้บริการแบบวิ่งไป-กลับ ระยะห่างระหว่างขบวนอยู่ที่ประมาณ 8 นาที โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสายสีน้ำเงิน (สถานีเตาปูน – สถานีหัวลำโพง) จะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าก่อนที่สถานีหัวลำโพงเพื่อที่จะเดินทางไปยังสถานีสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (สถานีวัดมังกร – สถานีท่าพระ)
ว่าแล้วเราก็มาเริ่มต้นกันเลย ถ้าเราเริ่มต้นการเดินทางในสถานีที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง 5 สถานีเราจะไม่ต้องเสียค่าโดยสาร สามารถรับโทเค็นในการเดินทางได้ทันที หรือใครมีบัตรอยู่แล้วก็แตะบัตรได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าเงินในบัตรจะไม่ถูกหักคร้าบผม
แต่ว่าถ้าเราเริ่มต้นจากสถานีอื่นที่ไม่ได้อยู่ในหมวด 5 สถานีนี้ ยกตัวอย่างเช่น เริ่มต้นที่สถานีหัวลำโพง เราก็ต้องเสียค่าโดยสาร 16 บาทนะ โดยค่าโดยสารจะเพิ่มตามระยะทางนั่นเอง
มาพูดถึงสถานีแรกแล้วกัน เป็นสถานีไฮไลท์ที่น่าสนใจมากแถมคนยังเยอะมากด้วย นั่นคือ "สถานีวัดมังกร" โดยสถานีนี้ตกแต่งสไตล์จีนจ๋า เน้นสีแดงแรงฤทธิ์แล้วก็ภาพวาดต่างๆ ที่เป็นสไตล์จีนและที่สำคัญมีมังกรด้วย!
ส่วนตัวพี่หมีชอบสถานีนี้เพราะชอบการดีไซน์นี่แหละ แถมยังใส่ใจในทุกดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แต่ช่วงนี้คนเยอะมากอาจจะหามุมถ่ายรูปลำบากหน่อยสำหรับใครที่คิดอยากถ่ายรูปจริงๆ จังๆ
สถานีนี้เป็นสถานีที่ใกล้กับวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ครับทุกท่าน เดินออกจากสถานีมานิดหน่อยก็จะเจอตัววัดแล้ว หรือจะเดินไปเยาวราชก็ได้ด้วยนะ สะดวกสุดๆ ต่อจากนี้ใครจะไปแก้ชงหรือจะไปหาของกินยามค่ำคืนก็สะดวกแล้วล่ะ อ้อ! นอกจากนี้ยังสามารถไปซอยเจริญกรุง 18 หรือถนนแปลงนามได้ด้วยเหมือนกัน
มาที่สถานีต่อไป อย่าง "สถานีสามยอด" ที่มีการตกแต่งแบบผสมผสานความเป็นไทยและศิลปะแบบชิโนโปรตุกีส มองแล้วได้ฟีลความเป็นฝั่งธนมากๆ
เอาจริงคืออยู่ในสถานีไม่ว้าวเลยนะ แต่จะรู้สึกคล้ายกับมาชมพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายเก่าแก่ เพราะด้านในจะมีรูปบ้านเรือนสมัยก่อนเก่า มีความขาวดำและซีเปีย ดูปุ๊บรู้ปั๊บว่าเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์โบราณแน่ๆ
แต่ที่สุดของความเก๋ไก๋เอาใจหมีไปเลยก็คือเครื่องจำหน่ายตัวนี่แหละ เราอาจจะเห็นเครื่องจำหน่ายตั๋วหน้าตาเดิมๆ กันมานานแล้ว แต่ที่สถานีนี้เค้าเอาแบบซุ้มประตูสามยอดมาประยุกต์ทำเป็นช่องเครื่องจำหน่ายตั๋วที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยนะ คิวท์ๆ ไปอีกกก
ด้านนอกอาคารก็เก๋ไม่แพ้กัน เพราะมีความใช้สีเขียวตัดกับสีขาว มีมุมให้คนชอบถ่ายรูปได้แชะภาพแน่ๆ เพราะหมีเห็นหลายกรุ๊ปหลายแก๊งเค้ารวมตัวถ่ายภาพกันที่ตัวอาคารของสถานีเยอะมากนะ เนี่ย...สุดยอดของความน่ารัก และสำหรับสถานีนี้ใครจะไปต่อที่ถนนมหาไชย ถนนเจริญกรุง หรือถนนอุณากรรณก็สบายปร๋อเลยจ้า
สถานีที่สาม "สถานีมหาไชย" อีกหนึ่งสถานีที่เป็นไฮไลท์และคนเยอะพอๆ กับสถานีวัดมังกร งานนี้ออกจากตัวรถขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เตรียมตัวคลานเข่าได้เลย เพราะเค้าจำลองตัวสถานีเหมือนท้องพระโรงในพระราชวัง เน้นสีทองและสีแดง จับมือจูงกันมากับลายกนกแบบไทยๆ อีกทั้งโคมไฟระย้าก็มี หมีมองแล้วตาพร่า 555
สถานีนี้เด็กนักเรียนใช้บริการเยอะเหมือนกันนะ อาจเพราะบริเวณนี้ใกล้กับโรงเรียนหลายแห่งแล้วก็มีทางออกอยู่ที่หน้ามิวเซียมสยามด้วยแหละ สถานีนี้ถือเป็นหัวใจแห่งฝั่งธนเลยก็ว่าได้ เพราะหมีคุยกับคนรู้จักยังได้รู้มาเลยว่าจากนี้ไปก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาดได้โดยไม่ต้องเสียเวลามากแล้ว ซึ่งหมีก็เห็นด้วยเลยฮับ
นอกจากบรรดาโรงเรียนต่างๆ มิวเซียมสยาม และปากคลองตลาดแล้ว เดินไปอีกสักพักก็ไปวัดโพธิ์กับพระบรมหาราชวังได้ด้วย พี่หมีรู้เลยว่าหลังจากนี้สถานีนี้ต้องฮิตฮอตในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติชัวร์!
อีกหนึ่งสถานีที่ใกล้จะสุดทางกันแล้วคือ "สถานีอิสรภาพ" เป็นสถานีที่เชื่อมต่อไปสู่สถานีรถไฟฟ้าท่าพระ จุดเด่นคือเป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา แต่เราจะไม่ได้เห็นปลาแหวกว่ายหรอกนะ เพราะนี่มันรถไฟฟ้าไม่ใช่อควาเรียม 5555 ตอนแรกที่ได้ยินหมีก็เข้าใจว่าจะมาแบบอะควาเรียมเหมือนกัน ไม่งั้นต้องอู้หูประหนึ่งหนังไซไฟแน่ๆ
สำหรับสถานีนี้ตกแต่งด้วยภาพหงส์ทอง แต่ไม่ได้มากอย่างที่คิดไว้แฮะ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีตกแต่งอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า แต่ว่าสำหรับสถานีนี้จะมีทางออกสองฝั่งที่ไปบริเวณซอยอิสรภาพ 23 และซอยอิสรภาพ 34 ใกล้บ้านใครแถวนี้มั้ยเอ่ย
จบจากตรงนี้ก็ไปที่สถานีสุดท้ายที่ให้เปิดบริการกันตอนนี้อย่าง "สถานีท่าพระ" ที่ถึงไม่ลอดแม่น้ำแต่เหินฟ้านะบอกเลย นั่งมืดๆ อยู่ดีๆ ก็สว่างวาบเหมือนฝั่งเตาปูนเลยครับผม
สถานีนี้มีพื้นที่โล่งกว้างเยอะ ลมเลยพัดเย็นสุดๆ แถมไปต่อได้อีกหลายที่ ทั้งซอยเพชรเกษม 10/2 ซอยเพชรเกษม 11 ซอยเพชรเกษม 12 ตลาดพระรุ่งเรือง วัดท่าพระ ฯลฯ เอาเป็นว่าจะออกตรงไหน ดูป้ายหรือถามเจ้าหน้าที่ได้เลยจ้า
พูดถึงตรงนี้แล้วหมีต้องขอกล่าวความประทับใจเสียหน่อย เจ้าหน้าที่ให้บริการดีมากๆ อันนี้ไม่ได้อวยแต่พูดจากใจจริงเลย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำผู้ใช้บริการอยู่ตลอดทั้งสถานี นอกจากนี้ที่ไม่พูดไม่ได้คือบรรดาคนที่มาใช้งานนี่แหละ
อย่างที่หมีบอกไปก่อนหน้านี้ว่าคนมาทดลองนั่งฟรีเยอะมาก แต่เท่าที่หมีเห็นนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนมีอายุที่มาทัวร์กัน บ้างก็เป็นลูกพาพ่อแม่มาทัวร์ บ้างก็เป็นก๊วนเพื่อนฝูงมีอายุที่จับกลุ่มมาด้วยกัน แต่ทุกคนดูกระตือรือร้นและมีเอเนอจี้ขั้นสุด ทำให้เราสามารถรับรู้ได้เลยว่าคนฝั่งธนนี่เค้าตื่นเต้นและรอคอยรถไฟฟ้ากันมานานจริงๆ หมีได้คุยกับคุณยายคนหนึ่งที่บุกเดี่ยวทัวร์คนเดียวด้วย แกบอกว่ามีรถไฟฟ้าแล้วมันสะดวกดีจริงๆ หลังจากนี้จะไปไหนก็นั่งรถไม่กี่นาทีเท่านั้น ฟังแล้วก็สุขใจเนอะ
เอาเป็นว่าใครอยากไปดูความครึกครื้น คึกคัก ก็สามารถไปทดลองนั่งรถไฟฟ้าฟรีกันได้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. - 28 ก.ย. นี้ แต่เค้าเปิดให้ใช้บริการกันในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เท่านั้นนะ อย่าทัวร์เพลินแล้วลืมเวลาสิ้นสุดการให้บริการล่ะ เดี๋ยวหาทางกลับบ้านลำบาก