ช่วงก่อนหน้านี้ฝนตกทุกวันเลย ตกลงมาเหมือนฟ้าจะถล่ม แต่ตอนนี้แดดเริ่มแรงอีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าระหว่างผมกับแดด อะไรมันจะฮอตกว่ากัน 5555
แต่ข้ามเรื่องนั้นไปก่อน เพราะต้องยอมรับจริงๆ ว่าสภาพอากาศบ้านเราช่วงนี้แปรปรวณ และในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าจะยิ่งรุนแรงกว่านี้ด้วย
ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ที่ช่วงฝนตกหนักๆ ที่ผ่านมานี่บ่นเหลือเกินครับเรื่องหลังคามันเข้ากับทรงบ้านได้ไม่ค่อยดี พอฝนตกลงมาทีก็กันไม่ค่อยอยู่ ถือว่าก็ลำบากไปพักหนึ่งเหมือนกัน
เพราะงั้นการจะเลือกทรงหลังคานี่จะเอาแต่ทรงตามใจฉันไม่ได้จริงๆ นะ ก็ต้องมาดูด้วยว่าแบบไหนมันถึงจะเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทย กันร้อนก็ได้ กันฝนก็ดี ถ้าแยกออกว่าทรงไหนมีข้อดียังไง นอกจากจะเพิ่มเอกลักษณ์ให้ตัวบ้านแล้วยังถือว่าได้ใช้ประโยชน์กันอย่างเต็มที่อีกด้วยครับ
เอาเข้าจริงหลายคนอาจจะไม่ทราบ แต่ว่าทรงหลังคาน่ะมันมีให้เลือกอยู่เพียบไปหมด แต่เดี๋ยวเราจะคัดเอามาเฉพาะทรงหลังคายอดฮิตของบ้านในกรุงกัน มาดูว่าทรงไหนเค้ามีสกิลยังไงกันบ้าง
1. หลังคาทรงหน้าจั่ว
ทรงมาตรฐานของหลังคาเลยล่ะ ขนาดเด็กน้อยวาดภาพยังต้องวาดหลังคาทรงนี้ สำหรับหลังคาทรงหน้าจั่วนั้นจะมีลักษณะเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมทอดยาวตลอดทั้งตัวหลังคาครับ ผืนหลังคาจะมีความลาดเอียง ทั้งสองด้านชนกันที่ปลายสูงสุดของหลังคา เป็นทรงหลังคาที่เรียกได้ว่าเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทยสุด
หลังคาทรงหน้าจั่วมีคุณสมบัติในการระบายอากาศที่ดี เพราะอย่างที่เห็นว่าหลังคามีการยกสูง ส่วนพื้นที่ใต้หลังคาก็ยังมีมาก ความร้อนในตัวบ้านเลยจะลอยตัวมาอยู่ตรงบริเวณหน้าจั่วด้านบนแทน
นอกจากกันแดดได้ดียังกันฝนได้เยี่ยมครับ หลังคาประเภทนี้จะมีปัญหาในเรื่องของการรั่วซึมน้อยมาก เพราะองศาลาดเอียงเยอะเป็นพิเศษ แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่ หากทิศทางลมในตอนที่ฝนสาดนั้นเป็นทิศที่หันเข้าจั่วบ้านพอดี ก็อาจต้องติดกันสาดเพิ่มเติม ป้องกันไม่ให้เม็ดฝนสาดเข้าตัวบ้านช่วงที่ลมพัดแรงนะ
2. หลังคาทรงปั้นหยา
ทรงหลังคาปั้นหยาจะมีรูปทรงลาดเอียงสี่ด้านขึ้นไปชนกันเป็นจุดยอดรวมคล้ายกับพีระมิด เป็นลักษณะเด่นของเค้าเลยคือจะครอบคลุมทุกทิศทางรอบบ้าน พิเศษกว่าตรงที่หลังคาทรงนี้จะมีความแข็งแรงกว่าหลังคาทรงอื่นๆ จะลมจะฝนก็รับได้จากทุกทิศทาง ไม่มีหวั่นแม้วันมามาก
แต่สำหรับทรงนี้อาจจะต้องใช้ทีมช่างที่มีความชำนาญหน่อยนะ เพราะอย่างที่เห็นว่าตัวหลังคามีจุดเชื่อมต่อมากกว่าแบบอื่น ถ้าทำไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้ ข้อเสียก็เป็นในเรื่องของการรับลมเข้ามาระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าทรงอื่นๆ ครับ
หลังคาทรงปั้นหยานี้เป็นที่นิยมมากในบ้านสไตล์ญี่ปุ่นเกาหลีนะ บ้านเราเองก็นิยมเหมือนกัน จะเห็นได้ว่าจะเจอในโครงการบ้านจัดสรรเสียเยอะครับ
3. หลังคาทรงมะนิลา
หลังคาทรงมะนิลาก็เป็นหลังคาอีกแบบที่ฮิตทำในบ้านกลางเมืองเหมือนกันครับ จะเห็นได้บ่อยกับบ้านสไตล์ร่วมสมัย สไตล์คันทรี่ หรือว่าสไตล์ไทยประยุกต์ เพราะว่าเป็นทรงที่มีความเป็นตะวันตกอย่างลงตัวมากๆ
หลังคาทรงมะนิลาเป็นการ combine กันระหว่างหลังคาทรงปั้นหยากับทรงหน้าจั่ว ซึ่งแน่นอนว่าการผสมรวมกันครั้งนี้ก็ได้นำเอาข้อดีของหลังคาทั้งสองทรงมารวมกันไว้ในที่เดียวด้วยคือความแข็งแรง รับได้ทั้งลมแดดลมฝน และในขณะเดียวกันก็ระบายความร้อนได้ดี
แต่ถึงจะเสริมแกร่งมายังไงก็มีข้อเสียอยู่บ้างนะ เพราะหลังคาทรงมะนิลานั้นมีความซับซ้อนของทรงหลังคา ดังนั้นปัญหาที่ตามมาคือปัญหาในเรื่องของการรั่วซึมระหว่างรอยต่อ ยังไงต้องหาทีมช่างที่มีความชำนาญเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้หน่อยถึงจะวางใจได้
4. หลังคาทรงแบน
ถ้าถามว่าหลังคาบ้านทรงไหนเหมาะกับบ้านสไตล์สังคมเมืองที่สุดก็ต้องหลังคาทรงแบนนี่แหละครับ หลังคาทรงนี้จะมีลักษณะเป็นหลังคาที่เป็นระนาบเดียวกันกับพื้น บ้านยุคใหม่สไตล์โมเดิร์นหรือทรอปิคอลสไตล์สมัยนี้เค้านิยมกันมากเลยแหละ
บ้านที่ใช้หลังคาทรงแบนเราจะคุ้นๆ กันว่าบางครั้งก็ถูกเรียกว่าบ้านไม่มีหลังคา หรือบ้านหลังคาเปลือย ซึ่งข้อดีของทรงหลังคาแบบนี้คือสร้างง่ายและประหยัดค่าวัสดุมากๆ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้พื้นที่ของหลังคาแปลงเป็นดาดฟ้าได้ จัดเป็นสวนบนดาดฟ้าหรือพื้นที่รับลมเย็นๆ ช่วงเย็นก็เหมาะครับ ถือว่าถูกและให้ประโยชน์สองเด้งเลยทีเดียว
แต่ว่ามันมีข้อเสียตรงที่หลังคาแบนมันดูดซับความร้อนและรับน้ำฝนโดยตรงนี่แหละ ดังนั้นถ้าจะสร้างก็ต้องสร้างให้มีความลาดเอียงเทไปทางช่องเจาะระบายน้ำฝนเล็กน้อยเผื่อเอาไว้ด้วยนะ
5. หลังคาทรงเพิงหมาแหงน
อีกหนึ่งทรงสุดจะทันสมัยก็คือทรงเพิงหมาแหงนนี่แหละจ้า ทั้งสวยงามทั้งเต็มไปด้วยความโมเดิร์น เส้นสายรูปทรงเรียบเท่ จากลักษณะของหลังคาที่มีองศาลาดเอียงไปทางด้านเดียวแบบนี้
แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน รอยต่อก็น้อย ช่วยประหยัดงบประมาณ ทั้งในส่วนของงบวัสดุหลังคาและงบโครงสร้างหลังคาไปได้มากโข ยิ่งไปกว่านั้นหลังคาทรงนี้ยังสามารถนำไปปรับให้เข้ากับแบบบ้านทรงอื่นๆ ได้อีกด้วย
แต่ปัญหาคือเพราะองศาความลาดเอียงของตัวหลังคามันเทไปด้านเดียวนี่แหละ ดังนั้นจึงอาจทำให้เกิดปัญหาการรั่วซึม ป้องกันความร้อนได้ไม่ดีนัก ถ้าอยากป้องกันข้อเสียตรงนี้ก็แนะนำให้ออกแบบช่องระบายความร้อนส่วนผนังหรือส่วนพื้นใต้หลังคามาทดแทนครับ จะช่วยได้มากเลย
แน่นอนว่าหลังคายังมีอีกหลายทรงหลายแบบ แต่ว่าสำหรับบ้านในกรุงนั้นส่วนใหญ่ก็นิยมกันตามนี้แหละ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่ว่าการหาบางอย่างมาช่วยอุดรอยรั่วนั้นไว้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงซะทีเดียว
การจะเลือกหลังคานี่จะเลือกแค่สวยงามมันก็ไม่ได้ ต้องดูในเรื่องของความแข็งแรงคงทน และความเหมาะสมกับอากาศไปด้วย ถ้าเลือกเป็นแล้วล่ะก็ การจะได้บ้านที่อยู่แล้วเย็นอยู่แล้วสบายก็ไม่ใช่อะไรที่ไกลเกินฝัน
Credit pic: VH6 HOUSE, Large Hipped Roof, BURASIRI PANYA INDRA, Blairgowrie 2, Pigeon Creek Residence
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ