ไฟเขียวแล้วครับ สำหรับผังแม่บทศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ 7 หน่วยงาน จองใช้พื้นที่อาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำเลเจริญนคร เต็ม 6 ทาวเวอร์ 2.2 แสน ตร.ม. งานนี้มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 7 หน่วยงาน จะย้ายที่ทำการไปใช้พื้นที่ศูนย์ราชการดังกล่าว เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นตอนเตรียมนับถอยหลังก่อสร้างแล้ว

        ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาสถานที่ทำงานของหน่วยราชการใน กทม. และเมืองหลัก ภายใต้คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ (กศร.) ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้รายงานการใช้ที่ดินและผังแม่บทศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย

        โดยความคืบหน้าในการเตรียมการก่อสร้าง และเตรียมการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ควบคุมงานก่อสร้าง มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 7 หน่วยงาน จะย้ายที่ทำการไปใช้พื้นที่ศูนย์ราชการดังกล่าว ประกอบด้วย

        1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 3.กรมการปกครอง 4.กรมพัฒนาชุมชน 5.กรมที่ดิน 6.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 7.กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอัตรากำลังของทั้ง 7 หน่วยงาน 7,607 คน

        พื้นที่ใช้สอยในโครงการรวมพื้นที่ส่วนกลาง ที่จอดรถ และอาคารจอดรถรวม 220,400 ตารางเมตร มีทั้งหมด 6 อาคาร หรือ 6 ทาวเวอร์ หรือ 6 โซน มีอาคารชั้นใต้ดิน 3 ชั้น แบ่งเป็น

        -พื้นที่โซน A มีอาคาร 1 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 19 ชั้น เป็นอาคารที่ทำการของกรมที่ดิน

        -พื้นที่โซน B มี 1 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 21 ชั้น เป็นที่ทำงานของกรมการปกครอง 

        -พื้นที่โซน C มี 1 ทาวเวอร์ สูง 15 ชั้น เป็นอาคารที่ทำการของกรมการพัฒนาชุมชน 

        -พื้นที่โซน D มี 1 ทาวเวอร์ ความสูง 16 ชั้น เป็นอาคารที่ทำงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 

        -พื้นที่โซน E มี 1 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 16 ชั้น เป็นอาคารที่ทำงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

        -พื้นที่โซน F มี 1 ทาวเวอร์ ขนาดความสูง 14 ชั้น เป็นที่ทำการของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

        นอกจากนั้น จะก่อสร้างอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร โดยในส่วนของตัวอาคารที่ก่อสร้างจะมีระยะถอยร่นจากริมแม่น้ำ 45 เมตร รวมทั้งจะก่อสร้างท่าเทียบเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเป็นทางเลือกและอำนวยความสะดวกสบายให้กับประชาชนที่จะเดินทางไปศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ 

        โดยผู้รับเหมาที่ชนะการประมูล ได้แก่ บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง เสนอวงเงินค่าก่อสร้าง 5,574 ล้านบาท จากราคากลางที่ตั้งไว้ 6,002 ล้านบาท ส่วนผู้ควบคุมงาน คือ บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) วงเงินว่าจ้างควบคุมงาน 142 ล้านบาท ขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะเร่งก่อสร้างโดยเร็วที่สุด