ทางฝั่งของธุรกิจการสร้างบ้านในยุคนี้เจ้าไหนส่งบริการโดนใจ เทคโนโลยีล้ำกว่า ก็ย่อมเรียกลูกค้าได้มากขึ้นฮะ ล่าสุดทาง "ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์" เค้าเพิ่งจับมือกับทาง "อินฟินิ 8" ส่งบริการรับสร้างบ้านแบบครอบคลุมครบทุกมิติครั้งแรก!! พร้อมผสานเทคโนโลยีล้ำๆ ให้ลูกค้าสามารถเห็นบ้านเสมือนจริงก่อนการก่อสร้างอีกด้วย

        ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ร่วมกับ บริษัท อินฟินิ 8 สร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมวงการออกแบบและสร้างบ้านระดับไฮเอนด์ครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Home-X” ครั้งแรก!! ของบริการรับสร้างบ้านที่ครอบคลุมครบทุกมิติ ด้วยการร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพด้านการสร้างบ้านหรูที่คร่ำหวอดในวงการยาวนานมากกว่า 30 ปี ผสานกับ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย มอบประสบการณ์ระดับ Iconic นำเสนอให้ลูกค้าได้เห็นบ้านเสมือนจริงก่อนการก่อสร้าง เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้ตรงกันทุกฝ่ายก่อนเริ่มงาน 

        อีกทั้งยังสามารถติดตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้แบบบ้านที่สวยงามตรงกับตามความต้องการ พร้อมคุณภาพในการก่อสร้างที่สูงสุด ตามจุดมุ่งหมายของทั้ง 2 บริษัท ภายใต้หลักการทำงานสำคัญที่เรียกว่า B.E.S.T. (Beyond Excellence Service Technology-เทคโนโลยีการบริการที่เหนือกว่าความเป็นเลิศ) นับเป็นการยกระดับมาตรฐานให้กับธุรกิจรับสร้างบ้านให้เติบโตไปอีกขั้น โดยนำเอา Innovation Technology มาผนวกรวมกับประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตอบโจทย์ Pain Point ที่ผ่านมาของลูกค้า เชื่อว่าในอนาคตธุรกิจรับสร้างบ้านในระดับนี้ก็จะปรับตัวตามเรามา ในฐานะผู้นำบริษัทรับสร้างบ้าน ก็จะต้องคิดกลยุทธ์ที่เป็น Leadership เป็นอะไรที่ใหม่ๆ เสมอ 

        โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Home-X คือ กลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านหรูระดับไฮเอนด์ราคาตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และต้องการบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ภายใต้องค์ประกอบสำคัญ 5 แกนหลัก ได้แก่  

        1) Consultation การให้คำปรึกษาแบบบูรณาการจากผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท พร้อมทั้งแนะนำขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการวางแผนการสร้างบ้าน และปรับแผนงานให้เหมาะกับลูกค้า 

        2) Information Organization การจัดการข้อมูลของโครงการโดยใช้เทคโนโลยี Personal Datavault ซึ่งเปรียบเสมือนเว็บไซต์ส่วนตัวของลูกค้า และเป็นช่องทางของทีมงานในการรายงานผลความคืบหน้าของโครงการให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อมูลทุกส่วนจะไม่มีการสูญหาย  

        3) Design Technology (DesTech) เป็นการยกระดับมาตรฐานการออกแบบโดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ เช่น 360, AR (Augmented Reality), VR(Virtual Reality), Animation, Room Simulator, และ Realtime Rendering เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการที่ทันสมัย เหนือระดับ 

        4) Construction & Craftsmanship การนำ Drone Technology มาใช้ในการ Survey เพื่อสำรวจภาพมุมสูงของไซต์งาน เพื่อช่วยในการวางแผนการทำงานก่อนที่จะก่อสร้างจริง, การบริหารจัดการไซต์งาน (Site Management) โดยวิศวกรมืออาชีพที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน, ใช้เทคโนโลยี VR ในการทำงานของทีมช่าง ในการจำลองงานสเกลจริง เพื่อลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง 

        5) Credibilityนอกจากความใส่ใจในบริการตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ทั้ง 2 บริษัทยังมีผลงานการันตีการออกแบบและการก่อสร้างที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของธุรกิจระดับแถวหน้าของประเทศไทยจากรุ่นสู่รุ่น โดยตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปี มีผลงานที่ส่งมอบแล้วมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท