หัวใจคนรักสัตว์อย่างผมน่ะแอบเอนเอียงอยู่บ้างจริงๆนะ เวลาเห็นโครงการคอนโดมิเนียมเจ้าไหนบอกว่าตัวเองเป็น Pet Friendly 

        แถมให้พูดกันตรงๆ ก็คงต้องบอกว่าหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ค่อยสนใจอยากจะมีคนรักอะไรขนาดนั้นแล้ว ถึงจะโสดก็ยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องบอกว่าบางครั้งมันก็เหงาหัวใจจจ

        ในเมื่อเหงา ก็ต้องหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงเป็นเพื่อนเสียหน่อย

        น้องหมาน้องแมวที่น่ารักนั้น มองแล้วใครจะอดใจไหวได้กัน แค่เห็นก็ใจละลาย บางคนอยากเลี้ยงสัตว์แทบตาย แต่ดันกลายเป็นว่า ห้องพักตัวเองดันห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์ซะงั้น

        บ้านเราอาจมีโครงการคอนโดมิเนียมไม่มากที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่เมื่อพูดกันแล้วผมก็นึกขึ้นมาได้เจ้าหนึ่ง นั่นคือทางเมเจอร์ครับ

        หลายๆ โครงการของทางเมเจอร์นั้นเค้าเน้นความเป็น Pet Friendly อยู่แล้วนะ บรรดาคนรักสัตว์ทั้งหลาย เลยมักจะเมียงมองมาทางนี้กันมากหน่อย เวลามองหาที่อยู่อาศัยที่เราจะสามารถกระเตงลูกน้อยมีขนของเราไปอยู่ด้วยได้

        และอีกหนึ่งโครงการจากทางเมเจอร์ที่ผมเลือกหยิบมานำเสนอกันในวันนี้ ก็เหมาะมากๆ สำหรับใครที่มีเพื่อนซี้สี่ขา

        เป็นโครงการใกล้บีทีเอสเอกมัยที่คิดว่า หลายคนน่าจะคุ้นหูกันดี อย่างโครงการ "MARU Ekkamai 2" ครับ

        โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 (ซอยเอกมัย) ห่างออกมาจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเอกมัย ประมาณ 500 เมตร

        เป็นซอยที่สามารถเดินทางได้สะดวก (แม้รถจะติดไปหน่อย) หาของกินง่าย เดินไปรถไฟฟ้าได้สบาย รถสาธารณะก็เยอะ

       หน้าปากซอยมี Gateway เอกมัยกับ Major เอกมัยครับ ในซอยเองก็มี Park Lane, Max Value, Big C, ร้านอาหาร, คาเฟ่, บาร์ ใกล้ๆ กันมี Community Mall หลายที่ให้เลือกไปนั่งหย่อนใจในวันหยุดด้วย

       ตัวทำเลนั้นดีมากอยู่แล้ว เป็นรองแค่พี่ๆ ทองหล่อเท่านั้นเอง

       เอกมัยเป็นทำเลทองย่านธุรกิจ การเติบโตของที่อยู่อาศัยในพื้นที่เองก็มีอยู่อย่างต่อเนื่อง แหล่งบันเทิงก็เพียบ สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ดีในหลายๆ ด้าน

       น้อง "MARU Ekkamai 2" เป็นโครงการ High rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 333 ยูนิต มีขนาดห้องให้เลือกเป็นแบบ 1 Bedroom Smart, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ทั้งแบบ Simplex (เพดานสูง 2.7 เมตร) และแบบ Duplex (เพดานสูง 5.5 เมตร) ส่วนขนาดเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 29.00 ตร.ม. ครับ

       โครงการนี้เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย วัสดุที่ใช้ก็เป็นดีไซน์ที่อิงธรรมชาติ เป็นไม้เอยเป็นหินเอย มองไปแล้วรู้สึกได้ว่าเป็นสไตล์มินิมอลสุดๆ

        ที่ต้องพูดถึงเลยคือ โครงการนี้ให้ส่วนกลางเยอะมาก เมื่อเทียบกับโครงการอื่นที่มีห้องจำนวนประมาณนี้ เพราะให้ส่วนกลางมา 5 ชั้น

        ต่อให้เราไม่ได้ออกไปไหนก็สามารถใช้ชีวิตในโครงการได้อย่างไม่มีเบื่อครับ

        ผมดูภาพรวมแล้วรู้สึกว่า เป็นการออกแบบพื้นที่ที่เหมาะกับคนที่เป็น introvert และ extrovert เลยนะ

        สำหรับฝั่ง extrovert นั้น โครงการนี้มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมกันเพียบ อย่าง Co-Creation Space ที่ให้เราได้ใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อนๆ มีเธียร์เตอร์รูม คาราโอเกะรูม กระทั่งห้องซ้อมดนตรียังมีเลย!

        คือใครที่มีกลองมีกีต้าร์อะไรพวกนี้ ก็สามารถเอามาเล่นในห้องซ้อมดนตรีได้เลยนะ

        แต่แน่นอนว่าไม่ทิ้งพลพรรคชาว introvert ไปไหนครับ เพราะที่นี่เค้ามี quiet room ให้ใช้บริการด้วย

        เป็นห้องที่เอาไว้ให้เรานั่งทำงานเงียบๆ คนเดียว งดใช้เสียง ดูแล้วชวนให้มีสมาธิมากๆ

        และอย่างที่บอกไปว่า โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อให้อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ เป็นสัตว์ขนาดเล็กกับขนาดกลางที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนั้นก็จะมีส่วนที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าตรงไหนบ้างที่สามารถพาน้องเข้าไปได้ และตรงไหนที่ไม่ได้

        ถือว่าดีมากเหมือนกันนะ เพราะก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรักสัตว์เสียหน่อย

        การแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจนแบบนี้ ช่วยจัดการปัญหาความวุ่นวายเบื้องต้นไปได้เหมือนกัน

        ยังไงเดี๋ยวมาดูห้องตัวอย่างกันสักเล็กน้อยแล้วกัน

        เป็นห้องแบบ simplex 1 Bedroom ขนาด 29.5 ตร.ม. ถือว่าให้พื้นที่มาเยอะพอสมควร

        มองจากประตูเข้าไปจะเห็นได้ทุกส่วนเลย ไล่ตั้งแต่เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ พื้นที่ Walk in closet และห้องนอนที่มีประตูกระจกบานเลื่อนให้

        โครงการใส่ประตูบานเลื่อนมาให้ ทำให้ห้องดูมีสัดมีส่วนดีครับ แต่มองๆไปแล้ว แอบดูเล็กกว่าความเป็นจริงอยู่บ้างนะ คือมันจะไปใหญ่ในส่วนของห้องนอนเสียหน่อย และเพราะห้องไม่ได้ให้พื้นที่สำหรับเป็นส่วนนั่งเล่นมาเลย จะให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ข้างหน้าต่างแทน

        ส่วนตัวผมว่ามุมแบบนี้ cozy ดี ถ้าอากาศหนาวๆ นอนซุกตรงนี้อ่านหนังสือหรือมองออกไปข้างนอกเพื่อ take view แล้วล่ะก็จะเหมาะมากเลย

        ขอแวะไปดูแบบ 2 Bedroom ต่อนิดครับ

        เป็นห้องที่มีพื้นที่กว้างขึ้นมาหน่อย ส่วนตัวผมรู้สึกว่าด้วยการจัดวางมันทำให้ห้องแรกดูแคบๆไปนิด จะมีก็แต่ในส่วนของห้องนอนที่ดูโปร่ง แต่ตัวนี้มันสลับกันซะงั้น 5555

        ภาพรวมของห้องนี้ดูดีมากเลย มีพื้นที่โล่งกว้างดีเพราะว่ามีโซนนั่งเล่นให้

        ผมแอบประทับใจห้องครัวเพราะเค้าหลีกไว้อีกมุมหนึ่งเลย เป็นสัดส่วนไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ครับ

        แต่พอย้ายมาห้องไทป์นี้ผมกลับรู้สึกแปลกๆกับห้องนอนนิดหน่อย

        ในส่วนของห้องแรกนั้นมีพื้นที่เหลือข้างเตียงประมาณ 70 เซนติเมตร แต่มาสเตอร์เบดรูมห้องไทป์นี้เหลือน้อยมาก

        ผมมองจากมุมกว้างแล้วแอบรู้สึกว่า ระยะห่างของทีวีกับเตียงมันใกล้กันเกินไปจนดูเบียดๆ อาจไม่สบายตาครับ แอบเสียดายเหมือนกันเพราะทุกอย่างดีหมดเลย

        ยังมีห้องแบบ Duplex ที่ตัวโครงการให้ดูเป็นห้องเปล่าๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรแต่ก็เห็นภาพรวมได้ดี ลมโฟลว์ดีมากด้วย ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้นเลยครับ

        เห็นว่าฝ้าเพดานนั้น ให้เป็นฉาบเรียบทาสีพร้อมกับติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวงด้วยนะ

        พื้นที่ด้านบนในส่วนที่เป็นห้องนอน ผมชอบมาก เพราะมีผนังกระจกให้ ไม่ใช่ระเบียงแบบเดี่ยวๆ ดูน่ากลัว

        แถมถ้ามองลงมาก็ยังเห็นมุมด้านล่างได้ทั้งหมดอีกต่างหาก

        ในส่วนของภาพรวมผมคิดว่า ใครที่ชอบโครงการที่ให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะจุใจน่าจะชอบที่นี่เลยล่ะ แต่กับเรื่องห้องอาจต้องดูไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วแต่คนชอบครับ

        แต่โครงการของเมเจอร์เค้าเน้นในเรื่องของคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอยู่แล้ว คงคอนเซ็ปต์การอยู่อาศัยได้จริง แถมตอนนี้มีโปรโมชั่น 1 ห้องนอน เริ่มต้น 5 ล้านบาทถ้วนด้วยนะ (จากปกติ 5.8 ล้าน)

        สำหรับใครที่รู้สึกว่าน่าสนใจอาจหาเวลาแวะมาเยี่ยมเยียนกันก่อนได้ครับผม